ช่วงเทศการหยุดยาวสิ้นปี สำหรับคนเมืองที่ชีวิตในแต่ละวันขลุกอยู่กับงานและงาน คงต้องหาเวลาให้ครอบครัวและตัวเองได้ผ่อนคลายด้วยการจัดทริปเที่ยว หนึ่งในทริปที่น่าสนใจและเหมาะกับการไปเที่ยวแบบครอบครัวก็คือ ทริปแห่งศรัทธา ไหว้พระ 9 วัด ต้อนรับปีใหม่ เสริมสิริมงคลให้กับชีวิต พร้อมกับเก็บบรรยากาศแห่งธรรมชาติตามช่วงฤดูกาล ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถตอบโจทย์ดังกล่าวได้ดีที่สุดในความคิดคือ จังหวัดน่าน
จังหวัดน่านเป็นจังหวัดที่สวยงามทั้งในเรื่องของธรรมชาติ ผู้คน และวัฒนธรรม ที่สำคัญคือมี วัด ที่เลือกทำบุญไหว้พระเยอะมาก แค่เขตในเมืองก็มีมากมายเป็นร้อยแห่ง แต่ละวัดล้วนสวยงามสมบูรณ์แบบตามแบบศิลปะล้านนาตะวันออก ทั้งด้านสถาปัตยกรรม จิตรกรรมและประติมากรรม อีกทั้งการเดินทางก็สะดวกสบาย สามารถเดินเท้าขี่จักรยาน จ้างสามล้อถีบหรือรถรับจ้างเที่ยวได้ เนื่องจากแต่ละวัดมีระยะห่างกันไม่มาก บางวัดอยู่ติดกันแค่ข้ามถนนก็ถึง ดังนั้นจึงสามารถพาครอบครัวที่อาจมีทั้งเด็กหรือคนเฒ่าคนแ ยอดพระเกตุโก่มาไหว้พระ 9 วัดจบได้ภายในวันเดียว โดยไม่เหนื่อยและสิ้นเปลืองเวลากับการเดินทาง
ศาลหลักเมืองน่าน
ศาลหลักเมืองน่านตั้งอยู่ภายในวัดมิ่งเมือง วัดที่มีความโดดเด่นทางด้านสถาบัตยกรรม โดยผนังโบสถ์ วิหาร รวมถึงหอศาลหลักเมืองเป็นสีขาวสวยงามด้วยลายปูนปั้นวิจิตรตระการตา เป็นศิลปะไทยเชียงแสน ภายในโบสถ์ประดิษฐานหลวงพ่อพระศรีมิ่งเมือง พระประธานที่มีอายุกว่า 400 ปี ลักษณะงดงาตามพุทธศิลป์แบบเชียงแสน ลงรักปิดทองทั้งองค์ ยอดพระเกตุโมฬีรูปดอกบัวตูม แกะสลักจากหินแก้วเจียหรือแก้วโป่งขามซึ่งเป็นหินศักดิ์สิทธิ์ของล้านนา ผนังพระอุโบสถประดับด้วยลายจิตรกรรมฝาผนัง บ่งบอกวิถึชีวิตรชาวเมืองน่าน ส่วนด้านหน้าพระอุโบสถเป็นศาลาจตุรมุข ด้านในประดิษฐานเสาหลักเมืองที่มีชื่อว่า เสามิ่งเมือง เป็นเสาไม้สักทองสูง 3 เมตร ลงรักปิดทอง ยอดเสาแกะสลักเป็รูปหน้าพระพรหมทั้ง 4 โดยมีชื่อเรียก เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เราต้องสักการะให้ครบทั้ง 4 ด้านเพื่อความเป็นสิริมงคลและ มิ่งขวัญ แก่ชีวิต
วัดภูมินทร์
วัดภูมินทร์ ชื่อเดิมคือวัด พรหมมินทร์ วัดนี้หลายคนคงคุ้นชื่อกันบ้างแล้ว เนื่องจากเป็นวัดที่มีชื่อเสียง มีเอกลักษณ์ที่โดนเด่นพระอุโบสถและวิหารสร้างเป็นหลังเดียวในรูปแบบจตุรมุข มีประตูทางเช้า 4 ด้าน เป็นพระอุโบสถจตุรมุขหลังแรกของประเทศไทย ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ 4 องค์ สีทองอร่าม นั่งบนฐานชุกชี หันพระปฤษฎางค์ชนกันโดยสายตามองออกไปยังประตูทั้ง 4 ทิศ ไม่ว่ามองจากประตูบานไหนก็จะเห็นพระพักตร์ของพระประธานทุกด้าน
ผนังด้านในของพระอุโบสถซึ่งปรากฏภาพจิตรกรรมฝาผนัง หรือ “ฮูแต้ม” โบราณซึ่งเป็นสุดยอดจิตรกรรมฝาผนังเมืองล้านนา โดยสะท้อนภาพแห่งวิธีชีวิตชาวเมืองน่านสมัยก่อน ภายในยังมึภาพหนุ่มสาวที่กำลังทำท่าเหมือนกับกระซิบกัน ภาพนั้นคือภาพวาด “ปู่ม่าน ย่าม่าน” ภาพหนุ่มสาวชาวไทยลื้อสมัยโบราณที่กำลังกระซิบกระซาบกันด้วยสายตาซึ่งแสดงออกถึงอารมณ์เกี้ยวพาราสี เป็นภาพวาดที่มีรายละเอียดประณีตมาก
สันนิษฐานว่าฮูแต้มนี้ได้ถูกวาดขึ้นภายหลังปฏิสังขรณ์พระวิหารขึ้นใหม่ในสมัยเจ้าอนันตวรฤทธิเดชฯ ในช่วงปี พ.ศ. 2410-2417 โดย หนาน บัวผัน ศิลปินพื้นเมืองชาวไทยลื้อ ภาพดังกล่าวยังได้รับการยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองน่าน
วัดช้างคำ
วัดช้างคำ วัดอายุกว่า 600 ปี แต่ก่อนวัดนี้ชื่อวัดหลวงกลางเวียง หมายถึงวัดหลวงประจำเมือง ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระประธาน พระเจ้าหลวง อันศักดิ์สิทธิ์ สมัยโบราณข้าราชการเมืองน่านต้องมาทำพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา เป็นการสาบานและให้คำสัตย์ต่อหน้าพระพุทธเจ้าหลวงว่าจะทำงานประพฤติตนโดยชอบ ด้านหลังพระอุโบสถมีพระพุทธเจดีย์พระธาตุหลวง ซึ่งเป็นเจดีย์ที่ตกแต่งฐานเป็นรูปช้างครื่องตัวโผล่ออกมาโดยรอบ รวม 24 เชือก ประหนึ่งกำลังค้ำเจดีย์นี้ไว้ ภายในพุทธเจดีย์บรรจะพระบรมสารีริกธาตุขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถัดมายังมีหอประไตรปิฎกที่หหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้านในประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำอายุกว่า 600 ปี
วัดหัวข่วง
วัดที่มีความสวยงามตามแบบฉบับล้านนาที่สมบูรณ์แห่งหนึ่ง วัดหัวข่วง เป็นภาษาเหนือ แปลว่าวัดที่อยู่ทางเหนือของเขตกำแพงเมือง หรือเขตคุ้มเจ้าเมือง ภายในพระวิหารวัดหัวข่วงประดิษฐานพระประธานปางมารวิชัยสมัยสุโขทัย แกะสลักโดยฝีมือสกุลช่างเมืองน่านแท้ๆ และที่วัดหัวข่วงนี้ยังมีหอไตรเก่าซึ่งสร้างตามรูปแบบสถาปัตยกรรมศิลปะล้านนาผสมพม่า ดูสวยงาม อยู่ไกล้กันกับโบสถ์และเจดีย์โบราณ
วัดพระเกิด
วัดพระเกิด วัดที่ตั้งในย่านชุมชน ดูๆไปวัดนี้เหมือนวัดธรรมดา แต่ความน่าสนใจของวัดนี้ไม่ได้อยู่ที่พระอุโบสถหรือวิหาร แต่อยู่ที่บ้านทรงล้านนาด้านหลัง ซึ่งอดีตเป็นกุฎิครูบาอินผ่อง แต่ปัจจุบันคือพิพิธภัณฑ์ชุมชนบ้านพระเกิด เก็บรวบรวมสิ่งของโบราณจากวัดที่ครูบาอินผ่อง เจ้าอาวาสวัดพระเกิดที่มรณภาพไปเมื่อ 40 ปีที่แล้ว สะสมเอาไว้ โดยการรวบรวมของชาวบ้านในชุมชนพระเกิด ซึ่งเห็นควรรักษาศิลปวัตถุที่ล้ำค่าของเมืองน่านไว้เป็นมรดกทางวัฒนธรรม โดยใช้กุฎิเก่าของครูบาอินผ่องเป็นพิพิธภัณฑ์ ภายในเต็มไปด้วยของโบราณหาดูยาก มีของน่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็หีบพระธรรมโบราณ แผงพระพิมพ์ บุษบก ตาลปัตรเก่า ตั๋วเมือง และคำภีร์ใบลานอักษรธรรมล้านนา เป็นต้น มีห้องพระพุทธศาสนา ประดิษฐานพระพุทธรูปโบราณเก่าแก่เอาไว้เป็นจำนวนมาก โดยสามารถถวายดอกไม้ธูปเทียนบูชาพระขอพรจากที่นี่ได้
วัดสวนตาล
วัดสวนตาล เป็นอีกหนึ่งวัดโบราณที่มีอายุมากกว้า 750 ปี สร้างด้วยศิลปะล้านนาผสมพม่า เป็นวัดที่ไม่ว่าใครหากมาเมืองน่านแล้ว ต้องมาไหว้พระขอพรกับพระประธานพระเจ้าทองทิพย์ซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในพระวิหาร เป็นพระศักกิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองน่านมาช้านาน มีความเชื่อว่า หากได้มาสักการะพระเจ้าทองทิพย์จะประสบความเจริญรุ่งเรือง โดยเฉพาะผู้ที่ทำมาค้าขาย จะเจริญก้าวหน้าและได้ผลกำไร
วัดศรีพันต้น
วัดศรีพันต้น สิ่งแรกที่เห็นคือพระอุโบสถสีทองอร่าม ตกแต่งด้วยลวดลายสถาปัตยกรรมศิลปะล้านนา พร้อมพญานาคตัวใหญ่ที่รอรับอยู่ตรงบันได ทั้งหมดเป็นฝีมือของช่างชาวน่าน
วัดพระธาตุแช่แห้ง
วัดพระธาตุแช่แห้ง อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นวัดที่สำคัญตั้งอยู่บนเนินเขาที่ร่มรื่น เมื่อมองไปบนยอดเนินจะเห็นองค์พระธาตุแช่แห้งสีทองสะท้อนแสงอาทิตย์สุกปลั่งดูงดงาม องค์พระธาตุแช่แห้งนี้ เชื่อว่าเป็นพระธาตุประจำสำหรับคนเกิดปีเถาะ ดังนั้นอานิสงส์อย่างแรงกล้า จากพงศาวดารเมืองน่านกล่าวว่า พระยาการเมือง เจ้านครน่านในสมัยสุโขทัย ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากกรุงสุโขทัย มาประดิษฐานไว้ที่ดอยภูเพียงแช่แห้ง และได้สร้างพระธาตุแช่แห้งขึ้นมา ณ ที่นี้
วัดพระธาตุเขาน้อย
วัดพระธารุเขาน้อย นอกจากได้ไหว้พระแล้ว ยังได้ชมวิวเมืองน่านทั้งเมืองด้วย วัดพระธาตุเขาน้อย วัดโบราณที่มีอายุพอๆ กับวัดพระธาตุแช่แห้ง ไฮไลของวัดนี้อยู่ที่จุดชมวิว เป็นจุดชมวิวเพียงแห่งเดียวที่สามารถชมวิวทิวทัศน์เมืองน่านได้ทั้งเมือง โดยบริเวณจุดชมวิวเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน พระพุทธรูปป่างประทานพร บนฐานดอกบัวสูง 9 เมตร ยอดพระเกศา ทำจากทองคำหนัก 27 บาท สร้างขึ้นในปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542
วิธีเดินทางไปยังจังหวัดน่าน
รถยนต์
จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 32 จนถึงจังหวัดนครสวรรค์ จากนั้นใช้เส้นทาง 117 มาจนถึงจังหวัดพิษณุโลก และจากจังหวัดพิษณุโลก ใช้เส้นทางหมายเลข 11 ไปจนถึงอำเภอเด่นชัย และจากเด่นชัย ใช้ทางหลวงหมายเลข 101 ไปจนถึงตัวจังหวัดน่าน รวมระยะทางประมาณ 668 กิโลเมตร
รถโดยสารประจำทาง
สามารถขึ้นรถโดยสารประจำทางสายกรุงเทพฯ – น่าน ได้ที่สถานีขนส่งหมอชิด มีรถออกเดินทางทุกวัน
ผู้ให้บริการรถโดยสารประจำทาง
บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร. 02-936-2841-48 ,02-936-2852-66
บริษัท สมบัติทัวร์ จำกัด โทร. 02-792-1444
บริษัท วิริยะทัวร์ จำกัด โทร. 02-936-2827
บริษัท บุษราคำทัวร์ จำกัด โทร. 02-936-0483, 02-936-0772
รถไฟ
สามารถนั่งรถไฟสายเหนือไปลงที่สถานีเด่นชัย จังหวัดแพร่ จากนั้นต่อรถโดยสารประจำทางหรือรถตู้โดยสารซึ่งมีให้บริการมาที่จังหวัดน่าน สามารถเช็คตารางเวลารถไฟได้ที่ www.railway.co.th หรือโทร. 1690
เครื่องบิน
สามารถใช้บริการของสายการบินนกแอร์ จากสนามบินดอนเมืองไปลงที่สนามบินน่าน โดยใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง จากนั้นต่อรถแท็กซี่หรือรถโดยสารเข้าตัวเมืองน่านซึ่งอยู่ไม่ไกล หรือใช้บริการของสายการบินกานต์แอร์ จากสนามบินเชียงใหม่ไปลงที่จังหวัดน่าน
ผู้ให้บริการสายการบิน
สายการบินนกแอร์ โทร. 1318 หรือ www.nokair.com
สายการบินกานต์แอร์ โทร. 02-551-6111 หรือ www.kanairlines.com