Tamdoo.com

ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว บันเทิง

Month: February 2014

  • Home
  • ย้อนอดีตสู่เส้นทางวิถีชุมชน บ้านมะเดื่อหวาน บ้านในสวน เกาะพะงัน

ย้อนอดีตสู่เส้นทางวิถีชุมชน บ้านมะเดื่อหวาน บ้านในสวน เกาะพะงัน

จากอ่าวโฉลกหลำจะมีถนนเส้นหนึ่งซึ่งตัดผ่านบริเวณช่องเขาแคบๆ ซึ่งเป็นพื้นที่ไม่สูงชันนัก ระหว่างแนวของเขาหราที่อยู่ตอนกลางสุดของเกาะและเขาตาหลวงซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะ เส้นทางสายนี้เป็นเส้นทางที่ลัดเลาะไปในช่องเขาลดหลั่นลงไปทางด้านทิศใต้สู่แนวที่ราบทางด้านท้องศาลาอีกครั้ง ตลอดเส้นทางสายนี้ยาวประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นพื้นที่สีเขียวของป่าไม้อุดมสมบูรณ์สลับกับสวนยางพาราและเรือกสวนไร่นานับเป็นเส้นทางที่สวยงามเส้นหนึ่ง มีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่หลายแห่งซึ่งใครเที่ยวเลาะชายหาดตะวันตกมาจนถึงโฉลกหลำก็สามารถเดินทางกลับเป็นเส้นทางวงรอบกลับไปยังท้องศาลาได้โดยไม่ต้องเสียเวลาย้อนกลับทางเดิมและยังได้ท่องเที่ยวไปในโลกสีเขียวของเกาะพะงันอีกด้วย จุดแรกที่ควรแวะเที่ยวคือ ศาลเจ้าแม่กวนอิมและวัดป่าแสงธรรม ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน ศาลเจ้าแม่กวนอิม อยู่ห่างจากบ้านโฉลกหลำราว 6 กิโลเมตร รูปแบบเป็นศาลเจ้าจีนที่สวยงามตั้งอยู่บนไหล่เขาช่วงหนึ่งของเขาตาหลวงที่มียอดสูงสุด 478 เมตรจากระดับน้ำทะเลอยู่ด้านตรงข้ามกับเขาหรา บริเวณศาลเจ้าอยู่บนเนินสูงที่เป็นจุดชมวิวสามารถมองเห็นอ่าวโฉลกหลำาที่อยู่ทางด้านทิศเหนือได้เป็นอย่างดี ตามประวัติเล่าขานกันมาสั้นๆ ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งที่มีศรัทธาแรงกล้าต่อองค์พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมชื่อคุณมลาวรรณ ได้เดินทางไปทอดผ้าป่าที่เกาะพะงันแล้วไปที่บ้านโฉลกหลำซึ่งเป็นชุมชนคนจีนไหหลำที่มีอาชีพทำาประมงมาแต่เก่าก่อนจึงเกิดศรัทธาขึ้นว่าจะต้องสร้างศาลเจ้าแม่กวนอิมนี้ขึ้นเพื่อบูชาและเป็นจุดหมายในการเดินเรือคล้ายกับเป็นประภาคารส่องแสงในยามค่ำคืนให้คนเรือได้มองเห็นเป็นจุดหมายในการเดินเรือได้ด้วย ซึ่งได้มาเจอสถานที่แห่งนี้เหมาะกับความฝันของเธอ จึงได้กลับไปกรุงเทพฯ แล้วรวบรวมเงินมาสร้างศาลเจ้าแม่กวนอิมนี้ขึ้น และสามารถสร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อ พ.ศ. 2536ภายในบริเวณศาลเจ้า มีศาลาชมวิวอยู่แห่งหนึ่งสร้างเป็นเก๋งจีนสามหลังติดต่อกัน…

งามวิถีชีวิตชุมชน หาดโฉลกหลำ งามล้ำ หินสวย หาดหินงาม เกาะพะงัน สุราษฏร์ธานี

บริเวณด้านทิศเหนือสุดของเกาะพะงัน นั่นคือ หาดโฉลกหลำ ชายหาดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมีลักษณะเป็นครึ่งวงกลมราวกับวงพระจันทร์ความยาวของหาดราว 3.5 กิโลเมตร ที่นี่เป็นชุมชนชาวประมงซึ่งมีวิถีชีวิตความเป็นมาเก่าแก่คู่กับเกาะพะงันมาเนิ่นนาน กล่าวกันว่าชื่อ โฉลกหลำ นี้มาจากชาวมลายูคนแรกที่มาอาศัยอยู่ที่อ่าวนี้ชื่อว่า โดล่ะ ดะหลำ แล้วภายหลังเรียกเพี้ยนเป็น โฉลกหลำ นั่นเป็นนัยหนึ่ง ส่วนคำว่า โฉลก นั้นสันนิษฐานอีกนัยหนึ่งว่า น่าจะมีส่วนมาจากการที่เมืองไชยามีชื่อตำแหน่ง ขุนยกกระบัตร หัวเมืองโฉลกในสมัยนั้นซึ่งชื่อบ้านหลายแห่งในเกาะพะงันก็มีชื่อนำหน้าว่าโฉลก อาจจะมีส่วนมาจากชื่อตำแหน่งนี้ก็เป็นได้ เพราะเกาะพะงันเคยขึ้นอยู่กับเมืองไชยามาก่อน หรือประการสุดท้ายที่เป็นข้อสันนิษฐานของผู้เขียนเองว่า การที่ชุมชนชาวจีนมาอาศัยอยู่บนเกาะพะงันพยายามออกเสียงคำว่า ลูกบ้านว่า โละบั่น เช่นลูกบ้านเก่าเรียกว่า โละบั่นเก๋า คำว่าโละนี้ก็อาจพ้องกับคำว่า…

งามมหัศจรรย์ทะเลแหวกเกาะพะงัน ที่แม่หาด เกาะม้า จังหวัดสุราษฏร์ธานี

กระบี่นั้นมีทะเลแหวกที่ขึ้นชื่อติดอันดับว่าเป็น Unseen Thailand ซึ่งใครๆ ก็รู้จักกันดี แต่ใครบ้างจะรู้ว่าที่เกาะพะงันนั้นก็ยังมีทะเลแหวกซ่อนตัวอยู่อย่างเงียบๆ อีกแห่งหนึ่ง แม้จะไม่โด่งดังเท่ากับของจังหวัดกระบี่ และการกำเนิดอาจจะแตกต่างกัน แต่ก็ยังพอเรียกได้ว่าเป็นทะเลแหวกอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทย ซึ่งอยู่ที่บริเวณแม่หาดปรากฏเป็นสันทรายเชื่อมต่อไปยังเกาะม้าที่อยู่ห่างไปราว 350 เมตร ปกติทะเลแหวกแห่งนี้จะเป็นสันทรายที่ปรากฏตัวอยู่ตลอดเกือบทั้งปี ไม่เหมือนกับ ทะเลแหวกของกระบี่ที่ เกิดด้วยอิทธิพลน้ำขึ้นน้ำลงโดยเฉพาะในช่วง 15 ค่ำวันน้ำใหญ่ที่น้ำขึ้นมากลงมาก ทะเลแหวกที่เกาะม้า นี้มีกำเนิดมาจากอิทธิพลของลมพัทธยาที่พัดเข้าสู่เกาะพะงันด้านตะวันตกเฉียงใต้ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคมของทุกปี แล้วพัดเอาทรายมากองรวมกันเกิดเป็นสันทรายทอดยาวจากหาดแม่หาดสู่เกาะม้าได้อย่างน่าอัศจรรย์ สันทรายนี้อาจจะเกิดขึ้นสวยงามหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับความแรงของคลื่นลมในฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดอยู่ในเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าลมว่าวนั่นเอง กล่าวคือ เมื่อมีลมว่าวเกิดขึ้นคลื่นลมจากลมว่าวจะพัดพาสันทรายที่ลมพัทธยาพัดพามาให้ต่ำลงและพากลับไปอีกด้านหนึ่งซึ่งถ้าคลื่นมรสุมไม่แรงมากสันทรายก็จะยังคงสวยงามอยู่ได้ อย่างไรก็ดี ช่วงฤดูลมว่าวนี้ช่วงน้ำใหญ่สันทรายก็อาจจะขาดไปบ้างจากน้ำทะเลที่หนุนสูงยามน้ำขึ้น ครั้นเมื่อน้ำลงก็จะกลับโผล่ขึ้นมาอีก จนเมื่อหมดลมว่าวสันทรายนี้ก็จะอยู่ถาวรตลอดทั้งปีจนกว่าจะเวียนมาบรรจบกับฤดูมรสุมช่วงลมว่าวอีกครั้ง…

งามเม็ดทราย นอนอาบแดดชายทะเล หาดยาว หาดสลัด เกาะพะงัน สุราษฏร์ธานี

ในบรรดาชายหาดริมฝั่งทะเลตะวันตกของเกาะพะงันทั้งหมด หาดยาวและหาดสลัดถือได้ว่า เป็นสองหาดที่มีเม็ดทรายขาวเนียนนุ่มและสวยงามมากกว่าหาดอื่นใด โดยเฉพาะหาดยาวนั้นเป็นชายหาดที่ยาวขนานไปกับชายฝั่งทะเลตะวันตกของเกาะพะงัน มีความยาวราว 1.5 กิโลเมตร ซึ่งมีรีสอร์ทใหญ่และบังกะโลขนาดเล็กเรียงรายอยู่ตลอดแนวชายหาดที่สามารถวิ่งจ๊อกกิ้งออกกำาลังกาย เล่นกีฬาชายหาดหรือแม้แต่นอนอาบแดดได้เป็นอย่างดี ส่วนบริเวณด้านนอกของชายหาด ทั้งหมดเริ่มต้นจากหาดเจ้าเภา หาดสนจนถึงหาดยาว หาดสลัดไปจรดแม่หาดนี้จะเป็นแนวปะการังที่ทอดตัวยาวเหยียดติดต่อกันเป็นแนวเหนือใต้ มีจุดที่สามารถดำน้ำดูปะการังได้ดีอยู่หลายจุด ที่นี่จึงเป็นแหล่งรวมร้านดำน้ำและมีบริการพานักท่องเที่ยวออกไปดำน้ำตามแนวปะการังเหล่านี้ด้วย นอกจากนี้หาดยาวยังเป็นจุดหนึ่งซึ่งสามารถชมพระอาทิตย์ตกได้สวยที่สุด ทุกเย็นในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสจึงมีนักท่องเที่ยวชอบมาคอยเฝ้าชมพระอาทิตย์ตกอยู่ตามชายหาดอยู่เสมอ ส่วนหาดสลัด เป็นหาดที่อยู่ต่อขึ้นไปทางด้านเหนือของหาดยาวที่มีแนวหาดเทียนตะวันตกกับหาดกรวดเป็นหาดเล็กๆ อยู่ต่อเนื่องกันไปกับหาดยาว โดยมีแหลมตาทองอินคั่นอยู่ระหว่างปลายหาดกรวดกับหาดสลัด ในอดีตเชื่อว่าเป็นที่ซ่องสุมของหมู่โจรสลัดที่เคยออกจี้ปล้นแถบน่านน้ำนี้และใช้อ่าวสลัดเป็นที่พำพำนักและกำบังคลื่นลมมาก่อน หาดสลัดวางตัวเป็นแนวเหนือใต้โค้งรับกับแหลมจั่วที่ยื่นออกไปในทะเลและดูคล้ายหาดครึ่งวงกลมสวยงามมีความยาวราว 1 กิโลเมตร ตลอดแนวหาดจะมีรีสอร์ทตั้งอยู่เรียงรายและเป็นรีสอร์ทที่ ค่อนข้างดีมีคุณภาพ รีสอร์ทแถบนี้เริ่มกิจการมาตั้งแต่ราว 15 ปีที่แล้วโดยรู้จักกันในหมู่นักท่องเที่ยวสวีเดนก่อน…

ดูตะวันลับขอบฟ้า หาดศรีธนู หาดเจ้าเภา หาดสน เกาะพะงัน สุราษฏร์ธานี

ในบรรดาชายหาดด้านตะวันตกทั้งหมดนั้น หาดศรีธนู หาดเจ้าเภา และหาดสน จัดได้ว่าเป็นชายหาดที่มีมุมมองพระอาทิตย์ตกได้สวยกว่าหาดใดๆ ทั้งนี้เนื่องจากมุมมองทางทิศตะวันตกแถบนี้สามารถแลเห็นหมู่เกาะอ่างทองเรียงรายอยู่ตรงหน้าอย่างสวยงามจะต่างกันก็ตรงที่มองจากมุมไหนเท่านั้น หาดศรีธนูจะเริ่มจากปลายแหลมศรีธนูขึ้นไปทางด้านทิศเหนือ บริเวณแหลมศรีธนู เป็นปลายแหลมยื่นลงไปในทะเล มีลักษณะเป็นเนินเตี้ยๆ เป็นที่ตั้งของรีสอร์ท สวยงามหลายแห่ง ซึ่งหากได้ยืนอยู่บนยอดเนินก็จะเห็นมุมมองพระอาทิตย์ตกได้ชัดเจน ถัดจากแหลมศรีธนูจะเป็นหาดศรีธนูที่ต่อไปถึงแหลมเหนียด ความยาวราว 800 เมตร เนื่องจากแถบนี้มีหาดทรายสวยงามมีต้นสนทะเลขึ้นอยู่เป็นทิวบางคนจึงเรียกว่าแหลมสน ชายหาดบริเวณนี้ถือเป็นหาดที่มีคุณภาพ มีรีสอร์ทและบังกะโลอยู่หลายแห่งสามารถลงเล่นน้ำทะเล นอนอาบแดดและชมพระอาทิตย์ตกได้เป็นอย่างดี ในครั้งอดีตเมื่อราว 40 ปีมาแล้วพื้นที่แถบนี้เคยเป็นเหมืองแร่ดีบุกมาก่อน ปัจจุบันเลิกกิจการไปประมาณ 20 ปีที่แล้ว จึงยังมีขุมเหมืองเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่อยู่แห่งหนึ่ง เรียกว่า ทะเลสาบแหลมสน…

มะพร้าวเอนอ่าววกตุ่ม เกาะพะงัน สุราษฏร์ธานี

เส้นทางท่องเที่ยวเลียบชายหาดตะวันตกนี้จะเริ่มจากท้องศาลามีถนนขนาดเล็กเลาะเลียบอ่าวในวก อ่าวปลายแหลม ไปเรื่อยๆจนถึงอ่าววกตุ่ม แถบนี้ท้องทะเลเป็นโคลนและค่อนข้างตื้นไม่เหมาะกับการเล่นน้ำทะเล ทั้งยังเป็นพื้นที่ที่มีป่าโกงกางขึ้นอยู่ทั่วไป บางแห่งเป็นหาดขนาดเล็กและบังกะโลรวมทั้งรีสอร์ทขนาดใหญ่ตั้งอยู่บ้างแต่ไม่มากนักอย่างไรก็ดีบริเวณนี้กลับเป็นพื้นที่หมู่บ้านประมงชายฝั่งที่มีวิถีชีวิตของชาวประมงและอู่ต่อเรือขนาดเล็กของชาวบ้านให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาถึงวิถีชาวเกาะได้อย่างดี ทั้งยังเป็นแหล่งที่ชาวบ้านมักออกแทงกุ้งในเวลากลางคืน ต่อวาย(การจับปลาหมึกยักษ์) ในเวลาใกล้รุ่งยามน้ำลด และหาหอยกลมในเวลากลางวันกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ในช่วงเวลาน้ำลง การหาหอยกลมนี้เป็นวิถีชีวิตของผู้คนแถบนี้มาตั้งแต่รุ่นปู่ย่า ตายายโดยใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านออกไปหาหอยในทะเล ด้วยการเอาน้ำมันพืชใช้แล้วใส่ขวดแชมพูแล้วหยดลงไปบนผิวน้ำทะเล ทำาให้เห็นน้ำทะเลใสขึ้นสามารถมองทะลุลงไปถึงพื้น เบื้องล่างเห็นตัวหอยที่อยู่ตามหน้าดินจึงจับหอยขึ้นมาได้ หอยกลมนี้มีรสชาติ หวานอร่อยนำมาทำาอาหารได้หลายอย่าง เช่น ผัดกะเพรา ผัดน้ำมันหอย ต้มกะทิและเอาเนื้อมาแกงกินได้ ในปีหนึ่งจะมีเทศกาลจับหอยกลมกัน 1 ครั้ง ประมาณเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมซึ่งเป็นช่วงลมพัทธยาจะมีหอยชนิดนี้เข้ามามาก โดย อบจ.และเทศบาลร่วมกันจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี มีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวออกไปหาหอยกลมแข่งขันกันตามกรรมวิธีท้องถิ่นแล้วเอามาทำอาหารรับประทานกันอย่างเอร็ดอร่อยเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวที่ขึ้นหน้าขึ้นตาของอ่าววกตุ่ม นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอนุรักษ์ธรรมชาติรักษาระบบนิเวศด้วยการทิ้งซากปะการังเพื่อให้เป็นที่อยู่ของหอยกลมในพื้นที่…

ท่องหาดตะวันตก เสน่ห์งามยามเย็นเกาะพะงัน สุราษฏร์ธานี

ชายหาดด้านทิศตะวันตกของเกาะพะงันนั้นถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของเกาะพะงัน มีเวิ้งอ่าวและชายหาดที่สวยงามบริสุทธิ์อยู่หลายแห่งและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนกับชายหาดแถบอื่นบนเกาะพะงัน ชายหาดด้านนี้จะเริ่มจากอ่าวในวก อ่าวปลายแหลม อ่าววกตุ่ม อ่าวหินกอง อ่าวศรีธนู หาดเจ้าเภา หาดสน ไปจนจรดหาดยาว หาดเทียนตะวันตก หาดสลัดและแม่หาด ชายหาดแถบนี้จะมีจุดเด่น ตรงที่สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกจากเกาะพะงันได้ในทุกหาดมีความสวยงามและมีเอกลักษณ์ แตกต่างกันไป ช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่สามารถท่องเที่ยวทางชายหาดแถบนี้จะเป็นช่วงระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งมีท้องฟ้าแจ่มใสได้บรรยากาศพักผ่อนของฤดูร้อน ส่วนเดือนมิถุนายนเป็นต้นไปถึงเดือนกันยายนอาจมีฝนบ้างเล็กน้อยและเป็นช่วงลมพัทธยาและลมตะวันตก น้ำทะเลจะลดในตอนกลางวันและขึ้นตอนเย็นหรือกลางคืนทำาให้อาจเล่นน้ำไม่สะดว แต่บรรยากาศโดยทั่วไปก็ยังสามารถท่องเที่ยวได้ดีและเป็นช่วงที่มีอาหารทะเลอุดมสมบูรณ์กว่าฤดูอื่น

ถนนคนเดินวิถีชีวิต และสีสันวันสุดสัปดาห์ บนเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฏร์ธานี

เป็นกิจกรรมที่ชาวท้องศาลาร่วมกันจัดพื้นที่ให้มีการนำสินค้ามาวางขายบนถนนทุก วันเสาร์ เวลา 16.00 – 21.00 น. ในวันดังกล่าวตั้งแต่ยามบ่ายบริเวณถนนตลาดเก่าที่เป็นย่านการค้าโบราณจะคลาคล่ำไปด้วยผู้คนพ่อค้าแม่ขายที่พากันนำสินค้ามาวางขายเรียงรายกันบนถนน โดยมีการปิดการจราจรให้เป็นถนนคนเดินเที่ยวอย่างเพลินใจ สภาพบ้านเรือนสองฟากถนนคนเดินนี้ยังเป็นบ้านห้องแถวเรือนไม้ที่มีสภาพสมบูรณ์อยู่หลายหลัง บางหลังก็เคยเป็นที่อยู่ร้านค้าของคหบดีในอดีตเช่นบ้านเก่าหลังหนึ่งเคยเป็นตัวแทนขายส่งสุรา อีกหลังหนึ่งเจ้า ของชื่อโกยี่เคยขายผัดไทยขึ้นชื่อปัจจุบันเลิกราไปแล้ว แต่บ้านเก่าหลังนี้ก็ยังอยู่และมีของขายอยู่หลายชนิด บ้านเก่าๆเหล่านี้ยังอยู่เรียงรายไปจนถึงบริเวณหน้าไปรษณีย์และธนาคารนครหลวงไทย จำกัด ซึ่งเป็นธนาคารแห่งแรกบนเกาะพะงัน บรรยากาศย้อนยุคเหล่านี้จะยิ่งมีมนต์ขลังให้เห็นโดยเฉพาะในเวลาโพล้เพล้ใกล้ค่ำที่มีแสงสีของไฟมาช่วยสร้างบรรยากาศพร้อมกับนักท่องเที่ยวและผู้คนที่เดินจับจ่ายซื้อของกินของใช้กันอย่างสนุกสนาน ทั้งเสื้อผ้าราคาถูก ของกินต่างๆ รวมทั้งขนมโบราณอย่างขี้หมาต้วงหรือข้าวตูที่มีทั้งแห้งทั้งสดก็ยังมีให้ลองลิ้มชิมรส โปสการ์ดสวยๆ ก็มี ให้เลือกซื้อเป็นที่ระลึก ใครคลั่งไคล้กับเสียงเพลงคันทรีย้อนยุคให้ไปที่หน้าร้านอาหารไอริช ที่นี่จะมีศิลปินจากแดนไกลที่หลงใหลคลั่งไคล้ในความบริสุทธิ์ของ เกาะพะงันผันตัวมาเป็นชาวเกาะผู้มีดนตรีในหัวใจพร้อมให้ความบันเทิงกับคุณได้อย่างไม่รู้เบื่อในทุกวันเสาร์ที่มีถนนคนเดินจนกลายเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งคู่ถนนคนเดินไปแล้วในวันนี้ นอกจากถนนคนเดินที่จัดขึ้นทุกวันเสาร์นี้แล้ว หากใครสนใจภาพวิถีชีวิตของผู้คนแถบท้องศาลาก็ยังมีวิถีชีวิตแบบชาวบ้านให้พบเห็นได้ซึ่งน่าสนใจไม่น้อย นั่นก็คือวิถีชีวิตของพ่อค้าแม่ขายแถวท่าเรือเฟอร์รี่ที่…

แหล่งท่องเที่ยว บริเวณหาดท้องศาลา เกาะพะงัน

ชื่อหาด “ท้องศาลา” นี้มีกำาเนิดมาจากครั้งอดีตเมื่อราว พ.ศ. 2427เคยมีศาลาอยู่หลังหนึ่งอยู่ใกล้กับบริเวณสะพานท่าเรือ ซึ่งเจ้าเมืองไชยา เคยใช้นั่งว่าราชการงานเมือง และใช้เป็นที่พักผ่อนปัจจุบันเรียกว่าศาลาที่ว่าการหรือทำเนียบ จึงเรียกขานหาดแถบนี้ว่า หาดท้องศาลา ซึ่งต่อมากลายเป็นศูนย์กลางความเจริญของเกาะพะงัน มีทั้งท่าเรือเฟอร์รี่ เรือด่วน รถรับส่งนักท่องเที่ยว ร้านอาหารนานาชาติ ร้านขายของที่ระลึก ร้านอินเทอร์เน็ต ร้านกาแฟน่ารักๆ ตลอดจนโรงแรมที่พัก ธนาคาร บริษัทท่องเที่ยว รถเช่า ฯลฯ ถือว่าเป็นแหล่งที่มีสิ่งอำานวยความสะดวกที่สุดบนเกาะพะงัน บริเวณหาดท้องศาลาแห่งนี้หากเป็นเทศกาลงานประเพณีสงกรานต์ ก็จะเป็นศูนย์รวมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศที่มารวมตัวเล่นสาดน้ำสงกรานต์กันอย่างสนุกสนาน นอกจากนี้ก็ยังมีประเพณีชักพระในวันออกพรรษาเป็นประเพณีเก่าแก่ที่สำาคัญซึ่งกำเนิดขึ้นที่เกาะพะงัน เป็นประเพณีพื้นบ้านที่ชาวเกาะพะงันยังคงยึดถือและปฏิบัติกันสืบมา หาดท้องศาลา หาดท้องศาลา…

ปั่นจักรยานท่องเที่ยวเกาะพะงันได้ทั่วถึงและปลอดภัย

ด้วยขนาดพื้นที่ ภูมิประเทศ ตลอดจนการแบ่งโซนการใช้ประโยชน์พื้นที่ด้วยฝีมือของธรรมชาติ ประกอบกับ “วิถีพะงัน”การท่องเที่ยวด้วยจักรยานเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ขอแนะนำพร้อมประทับตรายืนยันให้ผู้เดินทางท่องเที่ยวรับรู้ว่า “เหมาะสม” ถนนทั่วเกาะพะงันตัดตรง ตัดขวาง ระโยงระยางทั่วเกาะนับรวมกันได้ความยาวที่ 74.72 กิโลเมตรเส้นทางเชื่อมโยงที่ยาวที่สุดคือเส้นท้องศาลา-อ่าวท้องนายปาน 17.0 กิโลเมตร สภาพเป็นถนนซีเมนต์ผสมถนนดิน แม้วันนี้ยังไม่มีเลนช่องทางจักรยานเป็นการเฉพาะ แต่ถนนทั่วเกาะพะงันยังมีพาหนะบนถนนน้อยมาก สิ่งที่ผู้เดินทางจะได้พบเจอบนสองฝั่งถนนแทบทุกสายต่างหากที่มากมายหลากหลาย เกาะแค่นี้มีนาข้าว มีดงเสม็ดขาวมีวิถีชาวบ้านพะงันที่บ่งบอก ว่าวิถีพะงันนี่แหล่ะที่จะนำพาไปสู่เกาะสีเขียวได้ ทั้งสถาปัตยกรรมบ้านที่สอดคล้องกับสภาพอากาศ นิสัยชอบปลูกผักผลไม้ปลอดสารพิษข้าง บ้านรับประทานกันเอง วิถีเศรษฐกิจพอเพียง รักสะอาด รักธรรมชาติ เก็บความเป็น “บ้าน บ้าน”ไว้ครบถ้วน ทั้งเช้าและบ่ายเป็นเวลาที่เหมาะสม…