ลมแล้วพัดโบกโบยมาหลายเพลาแล้ว ทะเลฝั่งตะวันออกเริ่มสงบจากลมว่าว เสาร์-อาทิตย์ ด้วยระยะทางเพียง 250 กิโลเมตร แค่อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด คือแหล่งพักใจคลายร้อนกับการขับสบายๆ ไปนอนแคมป์ดูนกสุดสัปดาห์เข้าหาธรรมชาติพิสุทธิ์ที่ยังเหลืออยู่ไม่มากนักใกล้เมือง
จากกรุงเทพฯ ขับสบายๆ ตามทางหลวงหมายเลข 35 สายธนบุรี-ปากท่อ ไปจนถึงแยกวังมะนาว เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 4 มุ่งหน้าลงใต้ผ่านจังหวัดเพชรบุรี อำเภอชะอำ สู่อำเภอปราณบุรี อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงก็ไปถึงที่หมายได้
จุดหมายคือ บึงบัวสามร้อยยอด อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด พื้นที่ชุ่มน้ำ 1 ใน 12 แห่งของประเทศไทยตามอนุสัญญาแรมซาร์ (RAMSAR Convention) อนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำของโลก ซึ่งมีความสำคัญต่อระบบนิเวศทั้งในแง่ของการเป็นแหล่งบึงน้ำท่วมขัง พื้นที่พรุน้ำจืดและน้ำเค็ม อันเป็นแหล่งพืชพันธุ์ไม่น้ำต่างๆ อีกทั้งเป็นแหล่งดูนกที่น่าสนใจที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 53,074 ไร่ ติดแนวเทือกเขาสามร้อยยอดทางด้านทิศตะวันตก
จากกิโลเมตรที่ 275.6 ไม่ไกลจากตัวอำเภอสามร้อยยอด จะมีทางเลี้ยวซ้ายตามเส้นทางสู่โรงเจสามร้อยยอด ระยะทางราว 10 กิโลเมตร ไปสิ้นสุดเส้นทางที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติบึงบัวสามร้อยยอด ซึ่งเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำกว้างใหญ่ ช่วงเวลาเช้าเย็นจะเป็นเวลาที่ดีที่สุดของการดูนกที่นี่ โดยนกที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้จะมีทั้งนกน้ำและนกที่อาศัยอยู่บนบกตามชายป่าชายเขา มีทั้งนกอพยพและนกที่อยู่ประจำถิ่น พื้นที่ในการดูนกจะเริ่มจากบริเวณโรงเจสามร้อยยอดที่อยู่ทางด้านหัวเขาสามร้อยยอดด้านทิศเหนือ ส่วนจุดที่น่าสนใจและง่ายต่อการดูนกที่สุดจะเป็นบริเวณศูนย์ศึกษาธรรมชาติบึงบัวสามร้อยยอด ซึ่งมีสะพานเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเป็นวงรอบระยะทางราว 2 กิโลเมตร ไว้ให้นักดูนกเดินสำรวจนกชนิดต่างๆ ไดจากด้านบนสะพาน
เย็นแรกที่ไปถึง ได้แวะไปชมพระอาทิตย์ตกจากบนหอคอยจุดชมวิวริมบึงก่อนเป็นลำดับแรก ฝูงนกเป็นดแดงที่เคยมีอยู่มากบริเวณนี้และมักจะชอบบินออกหากินในยามเย็นช่วงนี้เหลืออยู่ไม่มาก เนื่องจากย่างเข้าฤดูร้อนมันจะพากันบินกลับถิ่นกำเนิดแถบจีนและไซบีเรีย วั้นนั้นผมจึงพบนกเป็ดแดงอยู่แค่ฝูงเล็กๆ ฝูงเดียว อย่างไรก็ดี มุมพระอาทิตย์ตกบนนี้ก็ยังสวยงามคุ้มค่าต่อการเฝ้าชม
เช้าวันใหม่ริมบึงอากาศเย็นสบายเหมาะแก่การเดินสะพานศึกษาธรรมชาติเพื่อเฝ้าดูนกน้ำชนิดต่างๆ นกที่พบได้ง่ายสุดคือนกอีโก้งตัวสีน้ำเงินเหลือบฟ้า ปากสีแดงสด พวกมันชอบเดินหากินตามกอหญ้า กอกก และตามที่ลุ่มน้ำตื้นๆ เสียงของมันจะแหบพร่าไม่ไพเราะ ในขณะที่บนราวสะพานทางเดิน นกกระเต็นอกขาว นกเขาไฟ และนกพิราบป่า มักจะชอบมาเกาะผึ่งแดดอ่อนยามเช้าอยู่เนืองๆ นกยางกรอกก็ชอบพรางตัวนิ่งๆ คอยซุ่มโจมตีจับเหยื่อเป็นอาหารไกลออกไปนกอีล้ำมักชอบว่ายน้ำหากินเป็นคู่อยู่อย่างเพลิดเพลิน แต่สัญชาตญาณการระวังตัวของมันจะสูงมาก หากเข้าใกล้นิดเดียวพวกมันก็มักจะบินหนีไปทันที
สายวันนั้นผมพบนกเป็ดผีแม่ลูกออกหากินกลางบึงน้ำอย่างน่ารัก ตัวแม่จะดำน้ำลงไปหาอาหารมาป้อนให้ลูกน้อยของมันที่ว่ายตามและส่งเสียงร้องเป็นระยะ นกกระติ๊ดสีอิฐตัวป้อมๆ คล้ายนกกระจอก พากันบินเป็นฝูงไปหลบเกาะอยู่ตามกอสาหร่ายสีน้ำตาล ส่วนนกยางไฟหัวดำมักชอบทำตัวแข็งทื่อเพื่อพรางตัวเวลาเกาะอยู่ตามกอไม้กลางน้ำ เช่นเดียวกับกาน้ำเล็กตัวสีดำขลับจะดำน้ำลงไปหาปลากินเป็นอาหารแล้วชอบขึ้นมาจับเกาะตามหลักเพื่อคลี่ปีกของมันที่เปียกออกผึ่งแดดให้แห้ง เป็นภาพที่น่าดูยิ่งนัก บางครั้งบางคราวก็ยังได้เห็นนกกระสาแดง นกกระสานวล บินโฉบให้เห็นอยู่ในระยะไกลๆ ผิดกับนกกระแตแต้แว้ด ที่ไม่ค่อยกลัวคนเท่าไร และชอบพากันบินร้องเสียงดังแต้แว้ดๆๆๆ ดังลั่นยามเมื่อมันตกใจเวลาคนเข้าใกล้
ช่วงกลางวันเป็นช่วงเวลาพักผ่อนของทั้งนกกและทั้งคนเนื่องจากอากาศจะร้อนจัด จนถึงช่วงเวลาเย็ยก็จะเป็นเวลาที่ดีในการออกดูนกอีกครั้ง ผมขับรถเปิดกระจกข้างขับช้าๆ เลาะริมบึง ไปตามเส้นทางเลียบชายเขาระยะทางสั้นๆ ราว 1.5 กิโลเมตร นกเอียงด่าง นกเอี้ยงหงอน นกปรอดบ้าน นกกระจิบหญ้าสีเรียบหางยาว นกแซงแซวหางปลา นกเด้าลมหลังเทา นกอีแพรด นกขมิ้นน้อยธรรมดา รวมทั้งนกกวัก เป็นนกพื้นๆ ที่สามารถพบเห็นได้ไม่ยากนักและสามารถถ่ายรูปได้จากภายในรถ โดยใช้รถเป็นที่ซุ่มกำลังในการถ่ายภาพได้เป็นอย่างดี
พอแดดร่มลมตกเข้าสู่เวลาเย็น หลัง 16.30 น.เป็นต้นไป ก็จะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะลงเรือถ่อออกไปชมบึงและชมนกน้ำกลางบึงที่อยู่ราวสะพานซึ่งยากที่จะดูได้ สมัยก่อนหากย้อนไปสัก 3-4 ปี การถ่อเรือเที่ยวชมบึงที่นี่ถือเป็นไฮไลต์เพราะในบึงบัวสามร้อยยอดจะเต็มไปด้วยบัวหลวงที่ชูช่อออกดอกสีชมพูบานสะพรั่ง แต่หลังจากที่น้ำแล้งจัดติดต่อกันมาหลายปี จนน้ำมีความเค็มเกินกว่าที่บัวเหล่านี้จะอยู่ได้ มันจึงพากันตายจนหมดสิ้น เสน่ห์บึงบัวสามร้อยยอดวันนี้จึงเปลี่ยนไปและยากที่จะหวนคืน จำนวนผู้คนที่มาเที่ยวจึงลดน้อยลงไปด้วย เหลือเพียงกลุ่มนักดูนกจริงๆ เที่นั้นที่ยังมีให้เห็นอยู่บ้าง
จุดเด่นของการถ่อเรือชมบึงวันนี้จะอยู่ที่การได้มองย้อนกลับมาชมขุนเขาสามร้อยยอดทอดตัวยาวเหยียดอยุ่อย่างตระหง่านง้ำ และการได้ชมนกบางชนิดที่ต้องออกมาชมกลางบึง เช่น เป็ดคับแค เป็ดแดง นกกระสาแดง นกตีนเทียน และนกยางโทนใหญ่ที่หากินอยู่ไกลจากชายบึง กับการได้ชมพระอาทิตย์ตกกลางน้ำ ซึ่งเป็นบรรยากาศสวยงามไปอีกแบบหนึ่ง
ก่อนกลับในวันต่อมา ผมขับรถย้อนออกมาถนนใหญ่แล้วเลี้ยวซ้ายไปทางอำเภอกุยบุรี ถึงกิโลเมตรที่ 286.5 ก็จะมีทางแยกซ้าย 14 กิโลเมตร ขับตรงไปที่อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด บริเวณเขาแดง ซึ่งเป็นจุดน่าสนใจอีกแห่งหนึ่งสำหรับการมาขับรถเที่ยวคราวนี้ นอกจากนกยางหลายชนิดที่พบหากินรวมกันเป็นฝูงตามท้องนาที่กำลังมีการไพปรับพื้นที่ นาจาบคาเล็กที่มีอยู่มากและพบเห็นได้ง่าย นกยางเขียวที่หากินอยู่ตามป่าโกงกาง ยังมีแย้ สัตว์ตระกูลเลื้อยคลาน ลิงแสม และค่างแว่นถิ่นใต้เป็นตัวชูโรงที่พบเห็นได้เป็นประจำ รวมถึงใครไม่ใช่นักดูนกก็ยังอาจใช้เวลาในการมาทางฟากนี้ไปเที่ยวชมหาดสามพระยา ถ้ำไทร ถ้ำพระยานคร หรือปีนจุดชมวิวเขาแดง ล่องคลองเขาแดงยามเย็น ก็คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมแล้วครับสำหรับวันหยุดสุดสัปดาห์เสาร์-อาทิตย์
ขอบคุณ อสท.