การไปชมความงามของดอกกระเจียว ดอกไม้ที่ได้สมญานามว่าเป็น ราชินีแห่งดอกไม้ ซึ่งพร้อมใจกันบานรับน้ำฝนในช่วงวสันตฤดูตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนไปจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม ซึ่งความงามเหล่านั้นได้ปรากฏเต็มผืนป่าที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ
ระยะทางราว 270 กิโลเมตรจากกรุงเทพฯ กับเวลาเกือบๆ 4 ชั่วโมง นำเราสู่อำเภอเทพสถิต มายังอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม กับสภาพอากาศฝนตกปรอยปรายตลอดเส้นทาง แต่เป็นความโชคดีของเราที่พอถึงถนนทางเข้าอุทยาน ฟ้าก็เปิดรับแสงแดดยามเที่ยง ผมและพวกแวะพักเติมพลังงานกันที่ร้านอาหารริมทางซึ่งเปิดเรียงรายตลอดเส้นทางเข้อุทยาน ข้าวเหนียวส้มตำไก่ย่างนี่แหละเมนูอร่อยเด็ดที่สุดของพื้นที่นี้ ยิ่งได้มากินแกล้มบรรยากาศของท้องทุ่งและภูเขา ก็ยิ่งเพิ่มความอร่อยอีกเท่าตัวเลยทีเดียว
หลังจากเติมพลังเสร็จสรรพ ภารกิจต่อไปคือการเข้าสู่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อุทยานแห่งชาติลำดับที่ 105 ของประเทศ เป็นอุทยานแห่งชาติประเภทป่าและภูเขาที่มีความหลายหลายของระบบนิเวศ ตั้งอยู่บนเทือกเขาพังเหยระดับความสูงประมาณ 300-846 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งวันนี้ถูกตกแต่งด้วยดอกไม้ตั้งแต่ทางเข้า เป็นออร์เดิร์ฟรับก่อนชมจานหลักด้านใน
กับช่วงเวลายามบ่ายแดดดีๆ แบบนี้ พวกเราตกลงใจกันว่าขอไปชมไฮไลท์อีกอย่างหนึ่งของสถานที่นี้กันก่อน นั่นคือลานหินงาม ทุ่งป่าหินขนพื้นที่กว่า 10 ไร่ ที่เต็มไปด้วยหินรูปร่างแปลกตาอันเกิดจากการกัดเซาะตามธรรมชาติเป็นเวลาหลายล้านปี สามารถขับรถยนต์เข้าไปจอดหน้าทางเข้าได้ และเดินเท้าอีกเล็กน้อยก็จะถึงลานหินอันลือชื่อ
ภาพที่ปรากฎต่อหน้าไม่ทำให้ผมและพรรคพวกผิดหวังรูปร่างของหินแต่ละก้อนเสมือนดังประติมากรรมที่ถูกรังสรรค์จากธรรมชาติ และสามารถจินตนาการได้หลายหลาก โดยหินก้อนที่เด่นๆ จะถูกตั้งชื่อกำกับไว้อย่างน่าชม เช่น หินฟีฟ่าเวิลด์คัฟ ที่มีลักษณะเหมือนถ้วยฟุตบอลโลก หินเรดาร์ ที่ดูผ่านๆ จะเหมือนกับเรดาร์การบินจริงๆ หินแม่ไก่ยักษ์ ที่ดูแล้วสามารถมโนภาพได้มากกว่าแม่ไก่ รวมถึงหินอื่นๆ ที่ชื่อแปลกๆ อีกมากมายให้เดินหาและสัมผัสกันอย่างหนุกสนานบนภูเขา และที่เด็ดอีกอย่างของที่นี่ที่ต้องไม่พลาดชมคือ มอหำตั้ง หินที่มีลักษณะคล้ายอวัยวะเพศของผู้ชายตั้งผงาดง้ำค้ำโลกให้ชายหนุ่มทั้งหลายที่มาเที่ยวชมได้ลูบไล้สัมผัส โดยมีความเชื่อว่า ผู้ชายคนไหนที่ได้สัมผัสกับหินก้อนนี้ จะช่วยเพิ่มความคึกคักมั้นใจให้กับเจ้าตัวน้อยได้ ซึ่งงานนี้ชายล้วนอย่างพวกเราไม่พลาดแน่นอนครับ
พระอาทิตย์เริ่มคล้อย ก็เป็นสัญญาณเตือนว่าถึงเวลารอดูพระอาทิตย์ตกกันแล้ว พวกเราจึงย้ายฐานไปจับเจ่าที่ ผาสุดแผ่นดิน พอได้ยินชื่อเท่านั้นแหละ เพื่อนผมคนหนึ่งถามว่าทำไมต้องสุดแผ่นดิน เพราะจังหวัดชัยภูมิก็ไม่ได้ติดชายแดนเสียหน่อย เพื่อนอีกคนหนึ่งจึงอธิบายว่า สุดแผ่นดินของที่นี่ไม่ได้หมายถึงสุดประเทศ แต่หมายถึงสุดเขตแดนของภาคอีสาน เพราะเมื่อพ้นเขตผานี้ไปจะเป็นพื้นที่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา จังหวัดลพบุรี ที่อยู่ในเขตภาคกลาง เพื่อนผมก็ถึงบางอ้อทันที
ไฮไลท์ของผาแห่งนี้อยู่ที่ชะง่อนหินเล็กๆ ที่ยื่นออกนอกหน้าผา เป็นจุดที่ชวนหวาดเสียวที่สุด แต่เมื่อมาถึงที่แล้ว ไม่ว่าใครก็ต้องขอไปยืนเก๊กท่าถ่ายรูปตรงชะง่อนหินกันสักครั้งหนึ่งในชีวิต สำหรับคนที่เป็นโรคกลัวความสูง หรือใจกล้าแต่ขาสั่น ไม่ขอแนะนำโดยเด็ดขาด เพราะหากพลาดพลั้งอาจเกิดอันตรายจนถึงชีวิตได้
หลังจากนั้น พวกเรานั่งรอชมพระอาทิตย์ตกอย่างใจจดใจจ่อ แต่โชคไม่ดีนักที่เมฆได้มาปกคลุมท้องฟ้าอีกครั้ง ซึ่งก็เป็นธรรมดาของฤดูฝน ถึงแม้จะเห็นเพียงแสงสีส้มที่ลอดผ่านก้อนเมฆ แต่แค่นั้นก็ทำให้รู้สึกประทับใจได้พอสมควร หลังจากนั้นจึงออกจากอุทยานและเข้าที่พักซึ่งมีเปิดอยู่มากมายบริเวณรอบๆ รีสอร์ต รอให้ถึงเข้าวันใหม่สำหรับโปรแกรมเด็ดประจำทริป กับราชินีแห่งดอกไม้ ณ ทุ่งดอกกระเจียว
ช่วเวลาเช้าตรู่ถือเป็นจังหวะดีที่สุดในการชมดอกกระเจียว เพราะด้วยบรรยากาศของผืนป่าที่เขียวชอุ่ม ชุ่มฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำค้างบนยอดใบหญ้า เคลียเคล้าสายหมอกอ่อนๆ ที่ลอยต่ำเกือบติดพื้น ช่วยขับความสดในของดอกไม้ให้น่าชมยิ่งขึ้น
6 โมง สำหรับฤดูฝนที่พระอาทิตย์ขึ้นข้อนข้างเร็ว เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเริ่มต้นชมดอกไม้ พวกเรามาประจำการที่จุดเริ่มต้นของเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม เตรียมตัวเดินเท้าสู่ทุ่งดอกกระเจียวซึ่งมีกระจายอยู่ 3 จุดด้วยกัน โดยจุดที่คนนิยมชมมากที่สุดคือจุดที่ 1 ซึ่งอยู่ติดริมถนน มีสะพานเดินชมอย่างสะดวกสบาย แต่กับคณะลุยๆ อย่างพวกเรา ขอใช้เส้นทางศึกษาธรรมชาติที่มีความยาวกว่า 5 กิโลเมตร เพื่อเก็บบรรยากาศของผืนป่าและดอกไม้งามอย่างเต็มที่
พวกเราใช้เวลาเดินสักพักก็มาถึงทุ่งดอกกระเจียวกลางป่าใหญ่ ภาพที่ปรากฎช่างน่าประทับใจและทำให้หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง ดอกกระเจียวสีชมพูระเรื่อแทงดอกชูช่อเหนือพื้นหญ้าสีเขียวชอุ่มที่เลียไล้ด้วยไอหมอก บานสะพรั่งเต็มท้องทุ่งสลับกับต้นไม้ใหญ่ที่ช่วยกรองแสงแดดให้เป็นสีอ่อน ส่องลอดใบไม้ร่มครื้มมาสะท้อนน้ำค้างบนกลีบดอกเป็นประกายสดใส ช่างเป็นทิวทัศน์ที่น่าประทับใจยิ่ง
สำหรับเส้นทางธรรมชาตินี้จะไปบรรจบกับเส้นทางหลักที่ผาสุดแผ่นดิน ซึ่งในต้อนเช้าของวันอากาสดีๆ จะถูกปกคลุมด้วยไอหมอกฟุ้งกระจาย และต่อเนื่องไปสิ้นสุดที่ลานหินงาม โดยตลอดทั้งเส้นทาง สามารถพบทุ่งดอกกระเจียวที่สมบูรณ์กว่าที่อื่นได้เป็นระยะๆ รวมถึงพืชพันธุ์และกล้วยไม้อื่นๆ หรืออาจได้เจอสัตว์ป่าเล็กๆ เช่น กระต่ายป่า เม่น กระรอก ที่แอบมองอยู่ไต้พงหญ้า นอกจากนั้นก็ยังมีโอกาสได้พบกับดอกกระเจียวป่า แม้จะเป็นเส้นทางที่สมบุกสมบันและเหน็ดเหนื่อยพอสมควร แต่ทั้งหลายทั้งปวงที่ได้พบและสัมผัสจากเส้นทางศึกษาธรรมชาตินี้ ก็ทำให้เรารู้สึกฟินสุดๆ ไปเลย
วิธีการเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม
รถยนต์ จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ผ่านสระบุรีจนถึงแยกพุแค จากนั้นเลี้ยวขวาตามทางหลวงหมายเลข 21 ไปจนถึงอำเภอชัยบาดาลแล้วใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 205 ไปจนถึงอำเภอลำสนธิ ก่อนเข้าตัวอำเภอเพทสถิต มีแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 2354 ไปจนถึงหลักกิโลเมตรที่ 17 เลี้ยวซ้ายไปตามถนนลาดยางอีกประมาณ 13 กิโลเมตร ก็จะถึงอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม
รถโดยสารประจำทาง สามารถขึ้นรถโดยสารประจำทางสายกรุงเทพฯ – เทพสถิต – ชัยภูมิ ได้ที่สถานีขนส่งหมอชิต มีรถออกเดินทางทุกวัน โดยลงที่ตลาดเทพสถิตหรือชัยภูมิ จากนั้นให้ว่าจ้างรถสองแถวไปยังอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม
ผู้ให้บริการรถโดยสารประจำทาง
แอร์ชัยภูมิ โทร. 02-936-0029, 02-936-0039
เพชรประเสริฐทัวร์ โทร. 02-936-3230
ชัยภูมิทัวร์ (จงเจริญกรุ๊ป) โทร. 02-936-1977
รถไฟ
สามารถนั่งรถไฟสายอีสานไปลงที่สถานีชุมทางแก่งคอย จากนั้นต่อรถไฟท้องถิ่นสายแก่งคอย – บัวใหญ่ ลงที่สถานีบ้านวะตะแบก จากนั้นก็ต่อรถสองแถวไปลงตลาดเทพสถิต เพื่อต่อรถสองแถว (อีกคัน) หรือว่าจ้างรถไปยังอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม สามารถเช็คตารางเวลาเดินรถไฟได้ที่ www.railway.co.th หรือโทร. 1690
ที่พัก
สามารถจองที่พักได้ที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงามได้ที่ www.dnp.go.th หรือ โทร. 044-890-0105
ไร่เอ๋ยฝ่น โทร. 081-936-4278, 084-025-5293
เจษฎาบ้านตอไม้ โทร. 081-907-2549, 081-878-3616
ไร่ภูเทพพิมาน โทร. 02-953-1314, 089-897-2144
บ้านต้นไม้ โทร. 089-105-0773, 089-499-9497
ไร่ภูพรรษา โทร. 086-000-4455, 044-890-094
สตรอเบอรี่ ฮิลล์ โทร. 082-924-9828, 080-668-4725
บ้านป่าดินหินงาม โทร. 087-021-7000, 087-107-2000
บ้านสวนอินทนนท์ โทร. 081-805-6381, 02-536-1418-9
ไร่สุขสถิต โทร. 081-852-5854, 085-115-1664
บ้านไร่อิงดอย โทร. 044-890-033, 089-123-3223