Tamdoo.com

ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว บันเทิง

Editor

  • Home
  • ดอยหัวหมด สวยทั้งหมอกและดอกไม้ จังหวัดตาก

ดอยหัวหมด สวยทั้งหมอกและดอกไม้ จังหวัดตาก

แม้อุ้มผางจะได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งการผจญภัย แต่อย่างไรก็ดีภายในอุ้มผางแห่งนี้ก็ยังมีโปรแกรมเที่ยวชมวิวแบบสบายๆ ให้สัมผัสเช่นกันนั่นก็คือ ดอยหัวหมด ภูเขาหินปูนทอดยาวที่ตั้งอยู่ใกล้กับทางหลวงสายหลักของอุ้มผาง และห่างจากตัวเมืองอุ้มผางเพียง 10 กิโลเมตรเท่านั้น จากนั้นเดินต่อเพียง 300 เมตร ก็จะได้ชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอกได้อย่างสวยงาม โดยช่วงฤดูฝนแบบนี้ก็ยังเที่ยวได้ บนยอดมีหมอกหนาให้สสัมผัสพร้อมอากาศเย็นสบายแถมยังมีดอกเทียนสีม่วงบานสะพรั่งให้ชมกันรอบดอยด้วย เที่ยวอุ้มผางหน้าฝนจึงไม่เหงาอย่างที่คิด ด้วยลักษณะภูมิประเทศของดอยหัวหมดที่เป็นภูเขาหินปูนทอดยาวหลายลูกติดกัน บริเวณดอยหัวหมดจึงมีจุดชมวิวให้ชมกันถึง 2 แห่ง จุดแรกตั้งอยู่บริเวณ กม. 9 ต้องจอดรถบริเวณริมทางหลวง จากนั้นเดินเท้าขึ้นเขาไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร เส้นทางส่วนใหญ่เป็นขึ้นเขาสูงชันในบางช่วงจึงต้องใช้ความระมัดระวัง โดยบนยอดเป็นภูเขายอดตัดโล่งเตียน ยามเช้าจึงสามารถชมทะเลหมอก…

เรื่องย่อละครคีตโลกา นิว-กรีน ประกบคู่กันครั้งแรก

ละคร คีตโลกา ชื่อแปลกๆ พอกับเรื่องราวที่เปิดโลกแห่งความเชื่อใหม่ว่าโลกเรามี โลกคู่ขนาน อยู่อีกด้านหนึ่งที่ดำเนินคู่กันไปกับโลกปัจจุบัน นำแสดงโดย นิว วงศกร ปรมัคถากร กับ กรีน อัษฎาพร สิรวัฒน์ธนกุล เรื่องย่อละครคีตโลกา..ร.ต.อ.ภควัต แห่งหน่วยปราบปรามยาเสพติด อาศัยอยู่กับลุงที่เป็นรัฐมนตรีและ คุณหญิงวรจันทร์ ป้าแท้ๆ ซึ่งรับดูแลหลังแก๊งค้ายาฆ่ายกครัว แต่ภควัต รอดมาได้เพราะมีพลเมืองดีเข้าช่วยก่อนที่พลเมืองดีจะถูกฆ่าตาย ด้าน อัญมา คุณหนูเย่อหยิ่งลูกสาวคนเดียวของ อรรณพ และ ภรณี เศรษฐีผู้ดีเก่าค้นพบความจริงว่าไม่ใช่ลูกที่แท้จริง แต่เป็นเด้กที่ถูกนำมาทิ้งไว้…

แมท ภีรนีย์ รุ่งหรู งานเพียบ รอรัก 11 ปี

แมท ภีรนีย์ คงไทย นางเอกจอมฮา ถูกใจแฟนๆ เป็นสาวลูกครึ่งไทย-นอร์เวย์ ที่เพิ่งฝากผลงานฮาสุดๆจาก รักนี้เจ้จัดให้ แมท เลยไม่เคยห่างจอ กำลังสะกดหัวใจแฟนๆ กับละคร รักต้องอุ้ม ทำให้แมท เป็นนางเอกช่อง 3 อย่างตระหง่านวงการ เค้าว่ากันว่า จ้างแมทร้อยเธอเล่นให้ล้านนึง! ช่อง 3 ไม่ปล่อยให้คนสวยและมากความสามารถลอยนวล จับ แมท เซ็นสัญญาเป็นเด็กในสังกัด อยู่กลุ่ม พาวเวอร์ทรี รุ่น 2 เมื่อปลายปีก่อน…

น้ำตกปิตุ๊โกร จังหวัดตาก

น้ำตกรูปหัวใจ กลางผืนป่าใหญ่ของจังหวัดตาก อำเภออุ้มผาง ด้วยความเป็นอำเภอที่มีพื้นที่มากที่สุดของไทย นอกจากน้ำตกทีลอซูอันโด่งดังแล้ว ภายในอุ้มผางจึงยังคงมีน้ำตกสวยกลางป่าใหญ่ให้ไปผจญภัยกันอีกหลายแห่ง แต่โปรแกรมที่ว่ากันว่าเหนื่อย และผจญภัยที่สุด ก็คือ โปรแกรมเที่ยวน้ำตกปิตุ๊โกร เพราะเป็น้ำตกที่เที่ยวเองไม่ได้ต้องการใช้บริการจากผู้ประกอบการท้องถิ่น แถมยังต้องเดินป่าฝ่าดงปีนเขาในช่วงฤดูฝนกันกว่า 3 วัน 2 คืน จึงจะได้พบน้ำตกชื่อเรียกยากแห่งนี้ แต่เมื่อไปถึงรับรองว่าไม่ผิดหวังเพราะคุณจะได้ชมน้ำตกรูปหัวใจกลางผืนป่าใหญ่ของตากที่หาชมกันได้ไม่ง่าย การเที่ยวชมน้ำตกปิตุ๊กโกร จะเริ่มเดินทางจากตัวเมืองอุ้มผาง โดยช่วงแรกต้องนั่งรถมายังบ้านกุยเลอตอระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง หากออกแต่เช้าประมาณเที่ยงถึงบ้านกุยเลอตอ จากนั้นเตรียมสัมภาระเปลี่ยนเสื้อผ้าใส่ชุดกันฝนให้เรียบร้อย ส่วนสัมภาระหนักๆ ให้ลูกหาบช่วงถือไป…

มองสายหมอกดอยแม่จอก จังหวัดน่าน

มองสายหมอก และขุนเขาจากบ้านพักอุทยานแห่งชาติขุนสถาน ดอยแม่จอก เป็นขุนเขาที่ตั้งอยู่ในอำเภอนาน้อยของน่าน มีความสูง 1,469 เมตรจากระดับน้ำทะเล แต่สำหรับจุดเด่นของดอยแห่งนี้อยู่ที่บริเวณเชิงดอย เพราะเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติขุนสถาน ด้วยสูงในระดับพันเมตรยามเช้าบริเวณบ้านพัก และลานกางเต็นท์ในที่ทำการอุทยานแห่งชาติขุนสถานจึงสามารถชมวิวภูเขา และสายหมอกได้อย่างสวยงาม หากมาเที่ยวช่วงฝนววิวภูเขาสีเขียว และสายหมอกเบื้องหน้าก็สวยงามไม่แพ้ฤดูกาลอื่นๆ เลยทีเดียว อุทยานแห่งชาติขุนสถาน ตั้งอยู่กิโลเมตรที่ 26 บนทางหลวงหมายเลข 1216 บริเวณเชิงดอยแม่จอก ห่างจากอำเภอนาน้อย 31 กิโลเมตร และห่างจากตัวเมืองน่านประมาณ 90 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1-2 ชั่วโมง…

นาขั้นบันไดอำเภอปัว จังหวัดน่าน

ชมนาข้าวขั้นบันได พร้อมเที่ยวฟาร์มเห็ด อำเภอปัว เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดน่าน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ห่างจากตัวเมืองน่านเพียง 60 กิโลเมตร นับเป็นอำเภอที่มีบรรยากาศสุขสงบน่ามาเที่ยวไม่แพ้ตัวเมืองน่าน โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนปัวจะเขียวขจีไปด้วยทุ่งนาข้าว ซึ่งสามารถขับรถเที่ยวชมทิวทัศน์นาข้าวได้ตลอดทาง แต่หากอยากชมวิวทุ่งนาสวยๆ ก็ต้องแวะไปเที่ยวฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ ซึ่งจากฟาร์มเห็ดสามารถชมวิวทุ่งนาของปัวได้อย่างสวยงามที่สุด การเที่ยวชมทุ่งนาข้าวในอำเภอปัวสามารถเที่ยวชมได้ไม่ยาก เพราะทุ่งนาข้าวส่วนใหญ่ตั้งอยู่ริมทางหลวง จากตัวเมืองน่านใช้ทางหลวงหมายเลข 1080 มาทางอำเภอท่าวังผา จากนั้นเข้าสู่ปัวด้วยทางหลวงหมายเลข 1256 เส้นทางนี้สามารถชมวิวทุ่งนาสีเขียวกันได้ตลอดทาง สำหรับใครที่ชื่นชอบการพักผ่อนชมวิวทุ่งนาสวยๆ มาเยือนอำเภอปัวก็ต้องไม่พลาดไปพักผ่อนกันที่ บ้านพักผาเก๊าะ-น้ำกูน หรือฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ เพราะที่นี่นอกจากจะเป็นบ้านพักอันสุขสงบใกล้ชิดธรรมชาติแล้ว ด้วยลักษณะที่ตั้งอยู่บนเนินเขาจากบริเวณห้องพักจึงเป็นจุดชมวิวนาข้าวที่สวยงามที่สุดอีกแห่งของปัวด้วย หากมองออกไปจะเห็นทุ่งนาข้าวสีเขียวทอดยาวไปถึงภูเขาด้านหลัง ซึ่งเป็นนาขั้นบันไดเรียงรายเล่นระดับอยู่ตลอดแนว…

โครงการหลวงแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ชมแปลงผัก ไร่กะหล่ำ และนาข้าวขั้นบันได แม่ลาน้อยเป็นอำเภอหนึ่งทางทิศใต้ของอำเภอเมือง และอำเภอขุนยวมของจังหวัดแม่ฮ่องสอน และยังมีอาณาเขตติดกับอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ทางด้านทิศตะวันออก แม่ลาน้อยจึงเป็นอำเภอสงบเงียบที่มีทิวทัศน์สวยงามของขุนเขา และเหล่าทุ่งนาข้าวสวยๆ ไม่แพ้กับวิวทางฝั่งขุนยวม และแม่แจ่ม โดยเฉพาะคนรักการท่องเที่ยวเชิงเกษตรบริเวณแม่ลาน้อยยังเป็นที่ตั้งของโครงการหลวงแม่ลาน้อย ตลอดสองข้างทางจึงมีทิวทัศน์ของไร่กะหล่ำปลี นาข้าวขั้นบันได และแปลงผักปลอดสารพิษของชาวเขาให้ชมกันตลอดปี โครงการหลวงแม่ลาน้อย ตั้งอยู่ในเขตตำบลห้วยห้อมอำเภอแม่ลาน้อยนับเป็นอีกหนึ่งโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถจัดตั้งขึ้นมาด้วยพระราชทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อช่วยเหลือพัฒนาอาชีพให้แก่ชาวเขาในพื้นที่ ซึ่งในอดีตจะนิยมปลูกฝิ่นทำไร่เลื่อนลอยทำลายป่าไม้กันอย่างมาก โดยโครงการหลวงจึงเป็นศูนย์พัฒนาที่มีแปลงผักปลอดสารพิษ แปลงปลูกพืชผัก ปลูกผลไม้ และไร่กาแฟให้เดินเที่ยวชมหลายแห่ง นอกจากนี้ก็ยังมีแปลงปลูกพืชผักนอกศูนย์ฯ ให้ชมด้วย เช่น ไร่กะหล่ำปลี…

สะพานซูตองเป้ สะพานไม้แห่งศรัทธาของเมืองสามหมอก แม่ฮ่องสอน

สะพานซูตองเป้แห่งนี้กำลังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งใหม่ของเมืองแม่ฮ่องสอน สร้างขึ้นโดยชาวบ้านกุงไม้สักเพื่อให้พระสงฆ์ และชาวบ้านได้ใช้เป็นเส้นทางสัญจนไปมา แม้สะพานซูตองเป้จะมีระยะทางยาวเพียง 500 เมตร แต่ก็ก่อกำเนิดมาจากแรงศรัทธาของชาวบ้านจนประสบความสำเร็จสมกับชื่อ ซูตองเป้ ที่หมายถึง ความสำเร็จ สะพานซูตองเป้ ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน บริเวณบ้านกุงไม้สัก ห่างจากตัวเมืองเพียง 15 กิโลเมตรเท่านั้น คำว่า ซูตองเป้ มาจากภาษาไทยใหญ่ หมายถึง ความสำเร็จ ซึ่งตรงกับจุดเด่นของสะพานที่ชาวบ้านในท้องถิ่นช่วยกันนำเสาไม้เก่าในบ้สนคนละต้นสองต้นมาเป็นเสาหลักคอยค้ำจุนสะพาน รวมถึงยังช่วยกันลงแรงสานพื้นไม้ไผ่ที่มีความยาวถึง 500 เมตรจนสามารถเดินข้ามไปมาได้อย่างดี ซึ่งระยะเวลาการก่อสร้างสะพานใช้เวลาลงมือลงแรงก่อสร้างกันถึง 2 เดือน สะพานซูตองเป้จึงได้ชื่ออีกชื่อหนึ่งว่า สะพานไม้แห่งศรัทธา…

สัมผัสช่วงเวลาโรแมนติกที่ทุ่งนาเมืองปาย แม่ฮ่องสอน

ถึงแม้อำเภอปายในวันนี้จะได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งรีสอร์ท แต่ในด้านทอวทัศน์ทางธรรมชาติรอบด้านเมืองเล็กกลางหุบเขาแห่งนี้ก็ยังคงงดงามเหมือนดั่งวันวาน สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ จึงยังคงสามารถขับรถเที่ยวพร้อมกับชื่นชมทิวทัศน์ขุนเขา สายน้ำ และทุ่งนา ได้เป็นอย่างดี ช่วงฝนพรำยิ่งสวยเพราะทุ่งนาจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวขจี เมื่อประกอบกับได้สายฝน และสายหมอกปายในช่วงนี้จึงโรแมนติกที่สุด เมืองปาย ห่างจากอำเภอแม่มาลัยจังหวัดเชียงใหม่ประมาณ 100 กิโลเมตร หากออกเดินทางแต่เช้าใช้เวลาแวะเที่ยวชมน้ำตกหมอกฟ้า โป่งเดือดป่าแป๋ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง รวมถึงระวังโค้งต่างๆ ช่วงบ่ายขับรถถึงอำเภอปายพอดี โดยก่อนเข้าสู่อำเภอปายคุณสามารถแวะเที่ยวชมสะพานประวัติศาสตร์ กองแลน และแวะชิมกาแฟอร่อยกันได้ที่ ร้านคอฟฟี่อินเลิฟ ในช่วงนี้ยังได้ชมวิวขุนเขา ทุ่งนา และแม่น้ำปายเป็นของแถมด้วย โดยตลอดสองข้างทางหากมองออกไปก็จะพบกับทิวทัศน์ทุ่งนาสีเขียวอันกว้างใหญ่ไปจนจรดขุนเขาที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหลัง ด้วยระยะทางที่ไกลจากตัวเมืองวิวในช่วงนี้จึงยังคงมีแต่ทิวทัศน์ธรรมชาติ ไม่มีสถาปัตยกรรมของรีสอร์ทหรูมากวนสายตามากนัก และหากเลือกพักรีสอร์ทในบริเวณนี้ยามเช้ายังจะได้ชมสายหมอกขาวพาดผ่านทุ่งนากันด้วย…

อาบน้ำแร่แจ้ซ้อน แช่น้ำแร่ แลน้ำตก จังหวัดลำปาง

อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน มีธรรมชาติเด่นในด้านน้ำ น้ำแรกคือบ่อน้ำแร่ธรรมชาติที่มีเพียงแห่งเดียวในลำปาง นอกจากจะมีบ่อน้ำพุร้อนให้ชมแล้ว ภายในยังมีห้องอาบน้ำแร่ให้ผ่อนคลายกันด้วย และถัดจากบ่อน้ำพุร้อน ในอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ก็ยังมีน้ำใสไหลเย็นจากน้ำตกแจ้ซ้อน ให้เดินเที่ยวชมกันต่อแจ้ซ้อนจึงเป็นอุทยานแห่งชาติ เพียงแห่งเดียวที่สัมผัสได้ครบทั้งแช่น้ำแร่ และน้ำตกอันงดงาม หลังจากขับรถมาถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน เดินเข้ามาไม่นานก็จะพบกับบ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อนแห่งแรก ลักษณะเป็นบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่มีใช้ชม 9 บ่อ แต่ละบ่อจะมีโขดหินน้อยใหญ่ตั้งกระจายอยู่รอบด้าน และมีไอน้ำลอยปกคลุมอยู่เหนือบ่อน้ำ โดยน้ำในบ่อน้ำพุร้อนจะมีอุณหภูมิประมาณ 70-80 องศาเซลเซียส สามารถต้มไข่ให้สุกได้ภายใน 15-20 นาที ภายในอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนจึงมีไข่จำหน่ายให้นักท่องเที่ยวได้ลวกไข่กินเล่นกัน สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการแช่น้ำแต่เพื่อคลายหนาว ทางอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนได้ทำห้องอาบน้ำแต่อย่างดี และนำน้ำแร่จากบ่อธรรมชาติส่งตรงถึงห้องกันด้วย โดยมีทั้งสระขนาดใหญ่ แช่แยกชาย-หญิง…