สถานที่ท่องเที่ยวภาคกลาง

ตลาดน้ำบางน้อยเป็นตลาดน้ำที่มีบรรยากาศแตกต่างกับตลาดน้ำอัมพวา ใครชอบเดินเที่ยวชิมของอร่อยท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ แบบชาวบ้านมาเดินเที่ยวตลาดแห่งนี้ไม่ผิดหวังแน่นอน ช่วงสายๆ หากยังพอมีเวลาจะไปเดินเที่ยวตลาดน้ำอัมพวาต่ก็ได้เพราะทั้งสองตลาดตั้งอยู่ไม่ไกลจากกันมากนัก แต่เดิมตลาดน้ำบางน้อยตั้งอยู่บริเวณปากคลองบางน้อย แต่ปัจจุบันได้ย้ายมาอยู่บริเวณท่าน้ำวัดเกาะแก้ว การเดินเที่ยวชมตลาดแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือแพริมน้ำในวัดเกาะแก้ว สำหรับส่วนที่สองคือบริเวณบ้านชาวบ้านใกล้เคียงที่เปิดเป็นร้านขายของต่างๆ หากคุณมาถึงในช่วงเที่ยงควรเลือกมาเดินเที่ยวที่แพริมน้ำกันก่อน ลักษณะเป็นแพยื่นออกไปริมแม่น้ำแม่กลอง โดยในวันเสาร์-อาทิตย์พ่อค้าแม่ค้าจะพายเรือมาจอดขายอาหารกันรอบแพ ส่วนใหญ่เป็นอาหารทั่วไป เช่น ผัดไทย ก๋วยเตี๋ยว หมูปิ้ง และเครื่องดื่มเย็นๆ ประเภท กาแฟ ชา น้ำอัดลม จากนั้นหลังอิ่มท้องกันแล้วค่อยไปเดินเที่ยวชมบ้านเรือนริมน้ำใกล้ๆ วัดกัน เดินได้จากบริเวณทางเดินจากวัด ตลาดแนวจะเป็นบ้านไม้ริมน้ำที่มีความสวยงาม และมีวิวให้ชมตลอดทาง…

เสน่ห์อย่างหนึ่งของการมาท่องเที่ยวตลาดน้ำคือการที่ได้เข้าไปสัมผัสกับบรรยากาศของวิถีชีวิตริมฝั่งคลอง ภาพของชาวบ้านที่พายเรือออกมาแลกเปลี่ยนสินค้า และค้าขายนับนักท่องเที่ยว แม้ปัจจุบันจะมีตลาดน้ำเกิดใหม่จำนวนไม่น้อย แต่จะมีสักกี่แห่งที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมได้ดีเท่ากับตลาดน้ำท่าคา ตลาดน้ำท่าคา เป็นตลาดน้ำที่อยู่ลึกเข้าไปใสสวน และยังคงความเป็นธรรมชาติอยู่มาก ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพทำสวน ความพิเศษของตลาดน้ำแห่งนี้คือ ยังไม่มีการค้าขายเพื่อหวังผลกำไร ชาวบ้านจะพายเรือออกมาในตอนเช้าเพื่อแลกเปลี่ยนสินค้าเป็นส่วนใหญ่ คล้ายกับวิถีชีวิตของชาวชนบทบนฝั่ง บนเรือพายของชาวบ้านจะมีสินค้าแตกต่างกันไป ส่วนใหญ่จะเป็นผัก ผลไม้ ที่ปลูกได้ในท้องถิ่น ตลอดจนเรือขายขนมจีน ข้าวแกง ก๋วยจั๊บ หอยทอด และขนมไทย นอกจากจะได้เที่ยวแล้วคุณเองยังได้อิ่มท้องกับเมนูหลากหลายในราคาย่อมเยา หลังจากเที่ยวชมตลาดน้ำในตอนเช้าแล้ว สายหน่อยคุณยังสามารถเดินเล่นต่อบนฝั่งได้อีก เพราะมีบ้านเรือนที่เปิดเป็นร้านขายของ ทั้งเครื่องจักสาน ของใช้ที่แกะสลักจากไม้ นอกจากนี้บริเวณริมฝั่งตรงข้ามกับบ้านสวนราชวงศ์ ยังเป็นศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน…

ปล่อยใจให้รื่นรมย์ไปกับความงดงามของแม่น้ำแม่กลอง สายน้ำแห่งชีวิต ที่ไหลผ่านคลองอัมพวาที่มาของตลาดน้ำยามเย็นอันเลื่องชื่อ ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ภาพพ่อค้าแม่ขายพายเรือนำอาหารและผลหมากรากไม้มาจำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยวผู้แสวงหาความแตกต่างจากการใช้ชีวิตในสังคมเมือง แสดงถึงความมั่นคงทางสังคม และความมั่งคั่งทางทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ จึงไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ตลาดน้ำอัมพวา เป็นตลาดริมคลอง อยู่ใกล้วัดอัมพวันเจติยาราม ทุกๆ วันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ จะคราคร่ำไปด้วยผู้คนที่อยากมาท่องเที่ยวสัมผัสวิถีชีวิตริมคลอง และจะคึกคักที่สุดตั้งแต่ช่วยบ่ายจนถึงช่วงค่ำ เนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมไปเที่ยววัดวาอาราม เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธ์ในช่วงกลางวันกันก่อนแล้วค่อยกลับมาเที่ยวตลาดน้ำอัมพวาในภายหลัง เมื่อมาถึงคลองอัมพวาสิ่งแรกที่เราจะได้เห็น ก็คือเรือที่พ่อค้าแม่ค้าพายมาเทียบท่าเพื่อขายอาหารและเครื่องดื่ม เช่น ปลาหมึกย่าง กุ้งย่าง ขนมจีน ก๋วยเตี๋ยว หอยทอด ชา-กาแฟโบราณ ขนมหวานและขนมไทยหาทานยากทั้งสองฟากฝั่ง พอขึนมาบนถนนเลียบคลองก็จะได้สนุกสนานไปกับการเดินดูของฝากจากร้านค้เก่าๆ ที่มีรูปแบบแตกต่างกันไปตามคอนเซปต์ของร้าน รวมทั้งแผงขายของที่ระลึกให้ได้แวะชมแวะซื้อกันตลอดรายทาง…

คลองโคน คือครองหนึ่งคลองที่ใกล้กรุงที่คนเมือง ไม่น้อยนิยมใช้เวลาว่างแวะเวียนไปเที่ยวในช่วงสุดสัปดาห์ แต่ส่วนที่โดดเด่นกว่าตัวคลองเห็นจะเป็นกิจกรรมอนุรักษ์ธรรมชาติ ที่แต่ละรีสอร์ท และโฮมสเตย์ต่างพากันจัดเต็มสำหรับโปรแกรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ บวกรวมเป็นอ็อปชั่นเสริมพร้อมห้องพักบรรยากาศดี โปรแกรมท่องเที่ยวส่วนใหญ่ นักท่องเที่ยวมักแวะเข้าเข้าที่พักหรือศูนย์อนุรักษ์ป่าชายเลนคลองโคน เพื่อฟังการบรรยายให้ความรู้เรื่องป่าชายเลนและแนะนำโปรแกรมท่องเที่ยวโดยชุมชน จากนั้นเดินทางออกจากศูนย์อนุรักษ์ป่าชายเลนคลองโคน โดยการล่องเรือเพื่อชมป่าชายเลนที่สมเด็จพระเทพฯ ทรงปลูกตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2540, 2541, 2542, 2545 และ 2547 ชมระบบนิเวศป่าชายเลน ทั้งพืชพรรณตามธรรมชาติ ได้แก่ ต้นโกงกางใบใหญ่ โกงกางใบเล็ก แสมพังกาหัวสุม ลำพู ลำแพน จาก…

เมื่อได้ยินชื่อพันท้ายนรสิงห์ หลายคนคงคุ้นเคยกันดีกับตำนานที่กล่าวถึงความซื่อสัตย์ ของพันท้ายนรสิงห์ นายท้ายเรือพระที่นั่งที่ต้องสิ้นชีพเพราะความคดเคี้ยว แถมเต็มไปด้วยโค้งหักศอกและกระแสน้ำอันเชี่ยวกราก ทำให้เรือพระที่นั่งของพระเจ้าเสือ (สมเด็จพระสรรเพชรที่ 8 ) ครั้นเสร็จประพาสต้นไปตามลำคลอโคกขาม เกิดอุบัติเหตุขนกับกิ่งไม้ใหญ่ริมคลองทำให้โขนเรือหักตกลงในน้ำ และเพื่อรักษาความศักด์สิทธิ์ของกฎหมายบ้านเมือง พันท้ายนรสิงห์จึงกราบบังคมทูลพระเจ้าเสือให้ประหารชีวิตตามกฎมณเฑียรบาล ทั่งที่เป็นเหตุสุดวิสัย เนื่องจากกระแสน้ำเชี่ยวแรงจนยากต่อการบังคับเรือจริงๆ ถึงแม้จะฝืนพระทัยแค่ไหน สุดท้ายแล้วก็จำต้องมีรับสั่งให้ประหารชีวิตพันท้ายนรสิงห์ แล้วรับสั่งให้ทำศาลสูงเพียงตา พร้อมนำศีรษะ กับหัวเรือพระที่นั่งเอกชัย ที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นไปไว้บนศาล เพื่อเป็นเครื่องแสดงถึงความซื่อสัตย์ และจงรักภักดี หลังจากเหตุการครั้งนั้นพระเจ้าเสือจึงโปรดให้เจ้าพระยาราชสงครามเป็นแม่กองคุมไพร่พลจำนวน 3,000 คน ขุดคลองลัดตัดทางคดเคี้ยว ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2248…

คลองสุนัขหอน เป็นคลองสายหนึ่งในจังหวัดสมุทรสาคร ที่เชื่อมต่อระหว่างแม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลองไว้ด้วยกัน โดยไหลผ่านหลายตำบล ในอำเภอเมืองสมุทรสาคร จากนั้นไหลลงมาบรรจบกับแม่น้ำแม่กลองอำเภอเมืองสมุทรสงคราม รวมระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร ซึ่งคลองสุนัขหอนไม่มีที่มาแน่ชัด แต่คาดกันว่าน่าจะเป็นเพราะในอดีตคลองสายนี้ไม่มีชาวบ้านใกล้เคียงจะนิยมพายเรือมาหาสัตว์น้ำกันในบริเวณนี้ เมื่อเหล่าสุนัขมองเห็นแสงไฟจากตะเกียงในเรือ จึงส่งเสียงเห่าหอนดังกันไปทั่วลำคลอง ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่จึงนิยมเรียกคลองแห่งนี้กันต่อมาว่า คลองสุนัขหอน ปัจจุบันคลองสุนัขหอนยังคงเป็นสายน้ำที่ใสสะอาด อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้ และต้นลำพูน ลำแพน จึงไม่แปลกที่คลองสุนัขหอนจะเป็นที่อยู่อาศัยของนกหาดูยากนานาชนิด รวมไปถึงเป็นแหล่งอาศัยของหิ่งห้อยตัวน้อยนับร้อยตัว ที่นี่จึงมีกิจกรรมล่องเรือชมหิ่งห้อยในยามค่ำคืนให้สัมผัสกันเช่นเดียวกับที่อัมพวา กิจกรรมล่องเรือชมหิ่งห้อยคลองสุนัขหอน เป็นกิจกรรมท่องเที่ยวที่คุณสามารถใช้บริการได้ที่ ร้านอาหารบ้านคุ้งน้ำรีสอร์ท เริ่มต้นเดินทางจากร้านอาหารบ้านคุ้งน้ำ รีสอร์ท เรียกได้ว่าหลังจากอิ่มกับอาหารอร่อยกันแล้ว ช่วงค่ำก็ได้เวลาล่องเรือไปชมหิ่งห้อยกัน…

ล่องเรือชมคลอง และเที่ยวสวนเกษตร จังหวัดนครปฐม เป็นจังหวัดที่ใกล้กรุงเทพ ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยเด่นให้มาเที่ยวแบบเช้ากลับเย็นกันอยู่หลายแห่ง โดยเฉพาะในเขตอำเภอสามพราน นับเป็นที่นิยมกันมากเพราะเดินทางสะดวกทั้งรถยนต์ส่วนตัว และรถโดยสารประจำทาง ใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงก็เที่ยวได้แล้ว ซึ่งหากคุณอยากสัมผัสกับสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความใกล้ชิดกับธรรมชาติ ได้ชมวิถีชีวิตชาวไร่ชาวสวนก็ต้องไม่พลาดมาเที่ยวที่นี่ คลองจินดา อันเป็นที่ตั้งของตลาดน้ำคลองจินดา คลองจินดาตามหลักฐานเชื่อกันว่าสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ขุดเพื่อใช้เป็นเส้นทางสัญจรทางน้ำไปยังแม่น้ำท่าจีน และเป็นเส้นทางค้าขายกับชาวจีน โดยคลองมีความยาวประมาณ 14 กิโลเมตร แต่ด้วยลักษณะของลำคลองที่มีความคดเคี้ยวยากลำบากต่อการพายเรือ ชาวจีนส่วนใหญ่จึงบ่นด่าลำคลองที่ไม่สะดวกต่อการค้าขาย พอชาวบ้านได้ฟังนานๆ ก็ขนานนามให้คลองกันว่า คลองจีนด่า ต่อมาได้เรียกเพี้ยนจนได้ชื่อใหม่ว่า คลองจินดา จนถึงปัจจุบัน และด้วยความเป็นดินดีใกล้น้ำพื้นที่ในบริเวณคลองจินดาจึงเหมาะสำหรับการปลูกต้นไม้ ตลอดสองฝั่งคลองจินดาจึงมีสวนผลไม้นานาชนิดให้เที่ยวชมกันด้วย…

ล่องเรือเที่ยว 4 สวนเกษตรใกล้กรุง คลองมหาสวัสดิ์นับเป็นคลองเก่าแก่อีกคลองหนึ่ง ที่มีประวัติมาอย่างยาวนานกว่า 150 ปี โดยคลองมหาสวัสดิ์ ถูกขุดขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อย่นระยะทางไปนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ สำหรับในปัจจุบันคลองมหาสวัสดิ์ ก็ยังคงเป็นเส้นทางสัญจรของชาวบ้านในพื้นที่เหมือนเช่นวันวาน ซึ่งส่วนใหญ่ยึดถืออาชีพทำไร่ทำสวนเกษตรต่างๆ มาล่องเรือเที่ยวชมคลองแห่งนี้จึงไม่ได้มีแต่เพียงบรรยากาศอันสงบสวยงามของลำคลองให้ชื่นชมเท่านั้น แต่ยังสามารถแวะขึ้นไปเดินเที่ยวชมสวนเกษตรอันโดดเด่นของชาวบ้านในท้องถิ่นได้อีก 4 แห่งด้วย คลองมหาสวัสดิ์ หรือ คลองชัยพฤกษ์ เริ่มขุดขึ้นในปี พ.ศ. 2402 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อใช้เป็นเส้นทางสัญจรไปยังองค์พระปฐมเจดีย์ จนกระทั่งมาขุดเสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2403 โดยมีความกว้างถึง 14…

คลองในประเทศไทยก็กลายเป็นตลาดน้ำในปัจจุบันหลายคลอง หาใช่เป็นคลองธรรมชาติไม่ แต่หลายคลองเป็นคลองที่เกิดจากการขุด เช่นเดียวกับคลองพระพิมลราชาแห่งนี้ ก็ถูกขุดขึ้นมาในสมัยรัชการลที่ 5 จุดประสงค์เพื่อขยายพื้นที่เพาะปลูกและเส้นทางคมนาคมระหว่างกรุงเทพฯ กับจังหวัดใกล้เคียง เพื่อขนส่งข้าวออกตลาดต่างประเทศ พระราชาภิมณฑ์ (เพ็ง) เป็นผู้ขอพระบรมราชานุญาตขุดคลองจึงได้ชื่อว่าคลองพระราชาภิมล โดยมีเป้าหมายว่าจะทำการขุดคลองตั้งแต่ทุ่งบางบัวทอง แขวงเมืองนนทบุรี ไปถึงบ้านบางปลา อำเภอบางเลน อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม พ.ศ. 2440 พระราชาภิมณฑ์ได้ถึงแก่กรรม ในขณะที่คลองยังขุดไม่เสร็จ นายเลื่อน ผู้เป็นบุตรได้ขอพระบรมราชานุญาตขุดคลองต่อ แต่ยังไม่ได้รับพระบรมราชานุญาต การขุดคลองยุติไปก่อน ซึ่งขุดไปถึงคลองขุนศรี อำเภอบางปลา (อำเภอบางบอน) นครปฐม…

นั่งเรือชมคลอง ชิมขนมหวานไทยโบราณ สำหรับคนรักขนมหวานต้องไม่พลาดมาเที่ยวชมคลองของเกาะเกร็ดแห่งนี้ เพราะตลอดการล่องเรือเที่ยวชมบรรยากาศสองฝั่งคลองยังจะได้แวะเที่ยวชมชิมขนมไทยโบราณแสนอร่อยกันหลายแห่งด้วย ซึ่งบ้านเรือนริมน้ำในคลองแห่งนี้ต่างมีอาชีพทำขนมไทยส่งขายกันทั้งนั้น คลองขนมหวานจึงถือเป็นแหล่งรวมขนมไทยที่มีให้ชิมมากที่สุดของจังหวัดนนทบุรี คลองขนมหวาน หรือคลองบางบัวทอง เป็นคลองสายหนึ่งที่แยกมาจากคลองลัดเกร็ด จุดเด่นของคลองแห่งนี้คือบ้านเรือนแทบทุกหลังคาเรือนมีอาชีพทำขนมไทยโบราณส่งขายทั้งบนเกาะเกร็ด และพื้นที่ใกล้เคียง ต่อมาจึงเกิดเป็นโปรแกรมท่องเที่ยวเรือชมวิวชิมขนมหวานตามบ้านต่างๆ คลองบางบัวทองแห่งนี้จึงได้ชื่อใหม่กันว่า คลองขนมหวาน สำหรับการเที่ยวชมคลองขนมหวานสามารถนั่งเรือหางยาวไปเที่ยวได้ทั้งจากบนเกาะเกร็ด บริเวณวัดปรมัยยิกาวาสวรวิหาร หรือจะนั่งเรือมาเที่ยวจากท่าน้ำปากเกร็ด ก็ได้เช่นกัน แต่ค่าบริการจะแพงกว่าเพราะอยู่ไกลกว่านั่นเอง จากเกาะเกร็ด เรือจะล่องพาชมบ้านเรือน ชมวิวเพลินๆ ไปสักพัก จากนั้นก็จะเริ่มแวะให้ขึ้นไปเที่ยวชมบ้านขนมไทยกัน เช่น บ้านขนมไทยคุณแอ๋ว และร้านสมชายขนมไทย โดยทั้งสองร้านต่างมีขนมไทยโบราณประเภท ทองหยิบ ทองหยอด…