Tamdoo.com

ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว บันเทิง

ศาลเจ้าพ่อองครักษ์ อำเภอองครักษ์ นครนายก

ศาลเจ้าพ่อองครักษ์ ตั้งอยู่ฝั่งแม่น้ำนครนายก ตำบลสันทรายมูล มีเรื่องเล่าว่าเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จประพาสมณฑลปราจีนบุรีโดยเสด็จผ่านมาตามแม่น้ำนครนายก และได้มาประทับแรมบริเวณที่ตั้งศาลเจ้าพ่อองครักษ์ในปัจจุบัน ในระหว่างประทับแรมอยู่นั้นนายทหารราชองครักษ์ป่วยและเสียชีวิตลง จึงทรงมีพระราชประสงค์ให้สร้างศาลขึ้นเป็นอนุสรณ์ ศาลแห่งนี้จึงมีชื่อเรียกว่า “ศาลเจ้าพ่อองครักษ์” และใช้เป็นชื่อของอำเภอองครักษ์ในเวลาต่อมา บริเวณหน้าศาลเจ้าพ่อองครักษ์นี้เป็นวังน้ำวน น้ำไหลเชี่ยวมาก และเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์จึงนำไปทำพิธีสรงน้ำมูรธาภิเษกเมื่อคราวประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช การเดินทาง จากถนนรังสิต – นครนายก เลี้ยวขวา เข้าอำเภอองครักษ์ และเลี้ยวซ้ายเข้าทางไปโรงพยาบาลองครักษ์ ถึงโรงพยาบาลองครักษ์เลี้ยวขวา จากนั้นเลี้ยวซ้ายข้ามแม่น้ำนครนายกก็จะถึงศาล

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และแหล่งท่องเที่ยวอำเภอปากพลี นครนายก

พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านไทยพวน ตั้งอยู่วัดฝั่งคลอง ตำบลปากพลี ริมทางหลวงหมายเลข ๓๓ เป็นที่รวบรวมข้าวของเครื่องใช้ของชาวไทยพวน อายุราว ๒๐๐ ปี เช่น ผ้าซิ่นไทยพวน โม่หิน ถังต้มกาแฟโบราณ อุปกรณ์ในการทำนา เครื่องมือในการทอผ้า เป็นต้น นอกจากนี้ ภายในบริเวณวัดยังมีกลุ่มทอผ้าพื้นเมือง และทำไข่เค็มสูตรใบเตยหอม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. ๐ ๓๗๓๙ ๙๘๓๓ น้ำตกวังม่วง ตั้งอยู่ที่ตำบลนาหินลาด โดยเดินทางไปตามถนนสุวรรณศร (ทางหลวงหมายเลข ๓๓) แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข…

แหล่งท่องเที่ยวอำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก

น้ำตกกะอาง ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาเพิ่ม จากตัวเมืองไปตามถนนสุวรรณศร ถึงอำเภอบ้านนาเยื้องกับสถานีตำรวจภูธรอำเภอบ้านนา มีถนนแยกไปน้ำตกกะอางระยะทาง ๑๑ กิโลเมตร เป็นน้ำตกเล็ก ๆ ลักษณะเป็นลานหินกว้างมีน้ำตกไหลผ่านตามช่องหิน ช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยว คือช่วงฤดูฝน (ประมาณเดือนมิถุนายน – ตุลาคม) ฤดูแล้งน้ำจะแห้ง ในบริเวณยังไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ บริเวณใกล้เคียงมีสถานีเพาะชำกล้าไม้ของกรมป่าไม้ และมีเนินเขาเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย วัดศรีกะอาง ตั้งอยู่เลขที่ ๙๙ หมู่ที่ ๙ ตำบลเขาเพิ่ม ประดิษฐาน “พระสัมพุทธสากยมุณีโลกนาถ” พระพุทธชินราชจำลอง องค์จำลองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย…

น้ำตกสาริกา และแหล่งท่องเที่ยวในอำเภอเมือง นครนายก

ศาลหลักเมือง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำนครนายก เสาหลักเมืองเดิมเป็นเสาไม้ยาว ๑ เมตรเศษ ปลายเสาแกะสลักเป็นรูปดอกบัว ตั้งอยู่บริเวณกำแพงเมืองเก่า ต่อมา พ.ศ. ๒๔๕๓ ได้ย้ายหลักเมืองไปประดิษฐานที่ตึกแดงในโรงเรียนศรีนครนายก เป็นโรงเรียนสตรีประจำจังหวัด และได้ย้ายมาสร้างใหม่ริมแม่น้ำนครนายกภายในสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ ๙ โดยสร้างเป็นศาลาจัตุรมุข เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองจนถึงทุกวันนี้ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ตั้งอยู่ที่ตำบลพรหมณี ห่างจากตัวจังหวัด ๑๔ กิโลเมตร และห่างจากกรุงเทพมหานคร ตามเส้นทางองครักษ์ ๗๕ กิโลเมตร บริเวณโรงเรียนติดกับเขาชะโงก มีพื้นที่ ประมาณ ๑๙,๒๙๐ ไร่…

ฟูลมูนปาร์ตี้ ที่คนทั้งโลกใฝ่ฝัน เกาะพะงัน สุราษฏร์ธานี

ย้อนไปในอดีตราว พ.ศ. 2510 คือเมื่อราว 45 ปีที่แล้วเกาะสมุยเพิ่งเริ่มเป็นที่รู้จักกันในหมู่ชาวต่างประเทศ จากการที่มีนักท่องเที่ย วผจญภัยเดินท างม าพบธรรมชาติบริสุทธิ์ของเกาะแห่งนี้เข้าและนำเอาเรื่องราวต่างๆ ไปเล่าขาน แน่นอนว่าในครั้งนั้นยังไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติคนใดรู้จักเกาะพะงัน จนเมื่อ พ.ศ. 2515 หลังจากที่เกาะสมุยเป็นที่รู้จักกันมากขึ้นนักท่องเที่ยวบางส่วนเริ่มสำารวจต่อไปถึงเกาะพะงัน ที่อยู่ใกล้กันทางด้านทิศเหนือว่ามีอะไรซุกซ่อนอยู่ให้ค้นหาบ้าง โดยนักท่องเที่ยวชาติแรกที่ไปถึง คือ นักท่องท่องเที่ยวชาวนิวซีแลนด์และชาวออสเตรเลีย ในยุคต่อๆ มา ซึ่งในครั้งนั้นถือเป็นครั้งแรกที่คนต่างชาติได้ซึมซับรับรู้ความงามของ หาดริ้นว่ามีความสวยงามวิเศษสุดเพียงใด ที่พักบังกะโลแห่งแรกที่เปิดให้บริการที่หาดริ้นมีขึ้นในราวปี พ.ศ.2523 ชื่อ บูรณ์บังกะโล ซึ่งภายหลังเปลี่ยนเป็นชื่อ ริ้นบีช…

หาดทรายนํ้าใสทะเลสวย หาดท้องนายปาน เกาะพะงัน สุราษฏร์ธานี

ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะพะงันนั้นยังมีอ่าวรูปโค้ง เป็นวงพระจันทร์อยู่แห่งหนึ่ง ซุกซ่อนตัวเองอยู่อย่างลี้ลับมาแต่ครั้ง สมัยโบราณที่มีประวัติว่ามีชาวสงขลาชื่อนายปาน อพยพหนีภัยจากโจรสลัดแขกที่ออกปล้นสะดมในน่านน้ำแถบนี้จนมาพบเวิ้งอ่าวอันห่างไกลสงบเงียบและลึกเร้นพอจะหลีกหนีภัยได้เพื่อเป็นที่ซุกซ่อนตัวเอง เหตุการณ์นี้น่าจะเกิดขึ้นเมื่อสมัยรัชกาลที่ 3อภายหลังโจรแขกถูกปราบลงได้ นายปานก็เลยอาศัยอยู่ที่นี่และมีชีวิตอยู่ต่อมาถึงสมัยรัชกาลที่ 5 จึงถึงแก่กรรม ผู้คนได้เรียกขานอ่าวแห่งนี้รวมทั้งชายหาดว่า หาดท้องนายปาน เรื่อยมา ปัจจุบันจากสภาพทางภูมิศาสตร์สามารถแบ่งออกเป็น 2 หาดคือ หาดท้องนายปานน้อย กับ หาดท้องนายปานใหญ่ หาดท้องนายปานน้อย ตั้งอยู่บริเวณด้านทิศเหนือของกลุ่มหาดท้องนายปานมีความยาวราว 700 เมตร เริ่มตั้งแต่ชายหาดบริเวณด้านทิศใต้ของแหลมปากช่อง ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสันธิญารีสอร์ท แอนด์ สปา ลงมาทางด้านทิศใต้จนถึงเนินเขาบริเวณที่แบ่งหาดท้องนายปานน้อยออกจากหาดท้องนายปานใหญ่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของปานวิมาน รีสอร์ท…

ชุมชนเก่าบ้านใต้ บ้านค่าย เกาะพะงัน จังหวัดสุราษฏร์ธานี

ชุมชนบ้านใต้ เป็น 1 ใน 3 ชุมชนเก่าแก่บนเกาะพะงันที่มีผู้คนมาตั้งรกรากอาศัยอยู่มาช้านาน สันนิษฐานว่าตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย เป็นชุมชนชาวจีนอพยพซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนจีนไห่หนาน หรือไหหลำ ที่มีอาชีพทำการประมง เข้ามาทำมาหากินตั้งบ้านเรือนอยู่อาศัยและผสมผสานกับคนพื้นบ้านมีลูกหลานสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคนจนเป็นชุมชนขนาดใหญ่แห่งหนึ่งบนเกาะพะงันมาจนถึงปัจจุบัน ร่องรอยของความเจริญรุ่งเรืองจากครั้งอดีตอาจพบเห็นได้จากวัดวาอารามต่างๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นชุมชนคนพุทธที่ผสมผสานกับคนเชื้อสายจีน กล่าวคือมีทั้งวัดเก่าแก่หลายแห่งเช่น วัดใน วัดนอก วัดโพธิ์ วัดเขาถ้ำ และมีศาลเจ้าจีนตั้งอยู่ในเขตบ้านใต้ ซึ่งสันนิษฐานว่าวัดเหล่านี้หลายวัดสร้างขึ้นมาในสมัยเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน คือ สมัยอยุธยาตอนปลายหรือสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น วัดใน เป็นวัดเก่าแก่ที่สุดซึ่งพบในเขตบ้านใต้ คาดว่ามีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย ปัจจุบันเป็นวัดร้างอยู่ในเขตธรณีสงฆ์ของวัดโพธิ์ ตั้งอยู่ที่ หมู่ 3 ตำบลบ้านใต้…

เที่ยวพิชิตยอดเขาหรา นํ้าตกแพง ที่เกาะพะงัน

บนความท้าทายของนักผจญภัยยอดเขาหรา ยอดเขาที่สูงที่สุดบนเกาะพะงันนั้นมักจะมีผู้คนเดินทางบุกบั่นดั้นด้นขึ้นไปสัมผัสความเป็นผู้พิชิตอยู่เนื่องๆ ยอดเขาหรา มีความสูง 627 เมตรจากระดับน้ำทะเลตั้งอยู่บริเวณใจกลางสุดของเกาะพะงันประดุจหัวใจสีเขียวของเกาะพะงัน การเดินทางพิชิตยอดเขาหรานั้น เริ่มต้นจากบ้านมะเดื่อหวานมีป้ายบอกทางชัดเจน สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ผ่านสวนผลไม้ของชาวบ้านไปจนจรดเชิงเขา จากนั้นเป็นเส้นทางเดินเท้าขึ้นสู่ยอดเขาหรา ในช่วงแรกเป็นป่าโปร่งผ่านอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กแห่งหนึ่งขึ้นไป เข้าสู่เขตป่าดงดิบชื้นเป็นทางลาดชันมีต้นไม้ขนาดใหญ่อาทิยางนา ตะเคียน ตังหน ขึ้นอยู่ทั่วไปมีลำธารเล็กๆ พอให้หาน้ำดื่มน้ำใช้ได้ ป่าบริเวณนี้เป็นแหล่ง กล้วยไม้เพชรหึง ที่มักพบขึ้นอยู่ตามคาคบไม้ใหญ่และอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสรรพชีวิตทั้งพืชพรรณไม้นานาชนิด เช่น เฟิร์นกระเช้าสีดา ช้องนางคลี่ กล้วยไม้สิงโตกลอกตา รวมทั้งนกและสัตว์ป่าอาทิ ลิง กวางป่าและหมูป่า เป็นต้น พ้นแนวป่าช่วงนี้ หนทางขึ้นเขาหราจะเริ่มชันยิ่งขึ้นและสภาพป่าเปลี่ยนไปเป็นป่าที่มีต้นไม้ขนาดเล็กลง มีแหล่งน้ำซับเล็กๆ…

ย้อนอดีตสู่เส้นทางวิถีชุมชน บ้านมะเดื่อหวาน บ้านในสวน เกาะพะงัน

จากอ่าวโฉลกหลำจะมีถนนเส้นหนึ่งซึ่งตัดผ่านบริเวณช่องเขาแคบๆ ซึ่งเป็นพื้นที่ไม่สูงชันนัก ระหว่างแนวของเขาหราที่อยู่ตอนกลางสุดของเกาะและเขาตาหลวงซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะ เส้นทางสายนี้เป็นเส้นทางที่ลัดเลาะไปในช่องเขาลดหลั่นลงไปทางด้านทิศใต้สู่แนวที่ราบทางด้านท้องศาลาอีกครั้ง ตลอดเส้นทางสายนี้ยาวประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นพื้นที่สีเขียวของป่าไม้อุดมสมบูรณ์สลับกับสวนยางพาราและเรือกสวนไร่นานับเป็นเส้นทางที่สวยงามเส้นหนึ่ง มีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่หลายแห่งซึ่งใครเที่ยวเลาะชายหาดตะวันตกมาจนถึงโฉลกหลำก็สามารถเดินทางกลับเป็นเส้นทางวงรอบกลับไปยังท้องศาลาได้โดยไม่ต้องเสียเวลาย้อนกลับทางเดิมและยังได้ท่องเที่ยวไปในโลกสีเขียวของเกาะพะงันอีกด้วย จุดแรกที่ควรแวะเที่ยวคือ ศาลเจ้าแม่กวนอิมและวัดป่าแสงธรรม ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน ศาลเจ้าแม่กวนอิม อยู่ห่างจากบ้านโฉลกหลำราว 6 กิโลเมตร รูปแบบเป็นศาลเจ้าจีนที่สวยงามตั้งอยู่บนไหล่เขาช่วงหนึ่งของเขาตาหลวงที่มียอดสูงสุด 478 เมตรจากระดับน้ำทะเลอยู่ด้านตรงข้ามกับเขาหรา บริเวณศาลเจ้าอยู่บนเนินสูงที่เป็นจุดชมวิวสามารถมองเห็นอ่าวโฉลกหลำาที่อยู่ทางด้านทิศเหนือได้เป็นอย่างดี ตามประวัติเล่าขานกันมาสั้นๆ ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งที่มีศรัทธาแรงกล้าต่อองค์พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมชื่อคุณมลาวรรณ ได้เดินทางไปทอดผ้าป่าที่เกาะพะงันแล้วไปที่บ้านโฉลกหลำซึ่งเป็นชุมชนคนจีนไหหลำที่มีอาชีพทำาประมงมาแต่เก่าก่อนจึงเกิดศรัทธาขึ้นว่าจะต้องสร้างศาลเจ้าแม่กวนอิมนี้ขึ้นเพื่อบูชาและเป็นจุดหมายในการเดินเรือคล้ายกับเป็นประภาคารส่องแสงในยามค่ำคืนให้คนเรือได้มองเห็นเป็นจุดหมายในการเดินเรือได้ด้วย ซึ่งได้มาเจอสถานที่แห่งนี้เหมาะกับความฝันของเธอ จึงได้กลับไปกรุงเทพฯ แล้วรวบรวมเงินมาสร้างศาลเจ้าแม่กวนอิมนี้ขึ้น และสามารถสร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อ พ.ศ. 2536ภายในบริเวณศาลเจ้า มีศาลาชมวิวอยู่แห่งหนึ่งสร้างเป็นเก๋งจีนสามหลังติดต่อกัน…

งามวิถีชีวิตชุมชน หาดโฉลกหลำ งามล้ำ หินสวย หาดหินงาม เกาะพะงัน สุราษฏร์ธานี

บริเวณด้านทิศเหนือสุดของเกาะพะงัน นั่นคือ หาดโฉลกหลำ ชายหาดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมีลักษณะเป็นครึ่งวงกลมราวกับวงพระจันทร์ความยาวของหาดราว 3.5 กิโลเมตร ที่นี่เป็นชุมชนชาวประมงซึ่งมีวิถีชีวิตความเป็นมาเก่าแก่คู่กับเกาะพะงันมาเนิ่นนาน กล่าวกันว่าชื่อ โฉลกหลำ นี้มาจากชาวมลายูคนแรกที่มาอาศัยอยู่ที่อ่าวนี้ชื่อว่า โดล่ะ ดะหลำ แล้วภายหลังเรียกเพี้ยนเป็น โฉลกหลำ นั่นเป็นนัยหนึ่ง ส่วนคำว่า โฉลก นั้นสันนิษฐานอีกนัยหนึ่งว่า น่าจะมีส่วนมาจากการที่เมืองไชยามีชื่อตำแหน่ง ขุนยกกระบัตร หัวเมืองโฉลกในสมัยนั้นซึ่งชื่อบ้านหลายแห่งในเกาะพะงันก็มีชื่อนำหน้าว่าโฉลก อาจจะมีส่วนมาจากชื่อตำแหน่งนี้ก็เป็นได้ เพราะเกาะพะงันเคยขึ้นอยู่กับเมืองไชยามาก่อน หรือประการสุดท้ายที่เป็นข้อสันนิษฐานของผู้เขียนเองว่า การที่ชุมชนชาวจีนมาอาศัยอยู่บนเกาะพะงันพยายามออกเสียงคำว่า ลูกบ้านว่า โละบั่น เช่นลูกบ้านเก่าเรียกว่า โละบั่นเก๋า คำว่าโละนี้ก็อาจพ้องกับคำว่า…