กาญจนบุรี

ขี่ช้าง ถ่อแพ และเดินสะพานไม้แห่งศรัทธา สังขละบุรีเป็นอำเภอไกลปืนเที่ยงของกาญจนบุรีมีชายแดนติดกับประเทศพม่า แม้ระยะทางจะไกลสุดถึง 400 กิโลเมตร แต่ที่นี่ก็น่าเที่ยวที่สุดเช่นกัน เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวให้สัมผัสกันครบทั้งธรรมชาติ สถาปัตยกรรม วัฒนธรรม วัดวาอาราม และวิถีขีวิตของชุมชนท้องถิ่น โดยไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือ การนั่งเรือเที่ยวชมวัดใต้น้ำ (หน้าฝนน้ำเยอะอาจไม่เห็น) และสะพานไม้แห่งศรัทธา ซึ่งช่วงฤดูฝนแบบนี้ยิ่งสวยยามเช้ามีหมอกขาวลอยละล่องเหมือนอยู่แดนสวรรค์เลยทีเดียว หากจุดหมายปลายทางของคุณอยู่ที่การมาเที่ยวอำเภอสังขละบุรี ตลอดทางไม่ควรแวะเที่ยวชมที่เที่ยวอื่นๆ เลย เพราะจากกรุงเทพฯ สู่สังขละบุรีมีระยะทางกว่า 359 กิโลเมตร ต้องใช้เวลา 4-5 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย โดยเฉพาะช่วงสุดท้ายของอำเภอทองผาภูมิเป็นทางขึ้นเขาสูงชันกว่าจะถึงก็อาจจะเกินเที่ยงวัน แต่เมื่อเริ่มเข้าสู่เขตสังขละบุรีก็สามารถเริ่มต้นเที่ยวกันเลย…

จุดนัดพบของคนรักธรรมชาติ และกิจกรรมสนุก รีสอร์ทริมแม่น้ำแควน้อยแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีของเหล่านักท่องเที่ยวที่หลงไหลการพักผ่อนในไทรโยค เพราะพื้นที่ของรีสอร์ทตั้งขนานไปกับทิวทัศน์อันงดงามของแม่น้ำแควน้อย และเส้นทางรถไฟสายมรณะอันโด่งดัง การพักผ่อนในรีสอร์ทแห่งนี้จึงได้สัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของไทรโยคได้อย่างเต็มอิ่ม นอกจากนี้ทางรีสอร์ทยังมีกิจกรรมสนุกให้สัมผัสความสนุกกับสายน้ำอีกมากมาย ฝนนี้มาเยือนสวนไทรโยคจึงสนุกกับสายน้ำ ประวัติศาสตร์ และกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างดีที่สุด หลังนำสัมภาระเข้าห้องพักในสวนไทรโยคเรียบร้อยแล้ว หากชอบท่องธรรมชาติสวนไทรโยคพร้อมพาคุณไปล่องแพแม่น้ำแควน้อยกัน โปรแกรมสวนไทรโยคเป็นผู้บุกเบิกเป็นเจ้าแรกของกาญจนบุรี กิจกรรมนี้สามารถเริ่มต้นการล่องแพได้จากบริเวณรีสอร์ท จากนั้นจะล่องแพทวนน้ำไปประมาณ 2 กิโลเมตร เมื่อถึงจุดปล่อยแพทางรีสอร์ทจะให้นักท่องเที่ยวสวมเสื้อชูชีพ และกระโดดลงแม่น้ำเพื่อลอยคอกลับมาขึ้นฝั่งกันบริเวณรีสอร์ท ช่วงบ่ายหลังเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเรียบร้อยไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ของไทรโยคกันต่อ ได้แก่ เส้นทางรถไฟสายมรณะ และถ้ำกระแซ โดยทั้งสองแห่งตั้งอยู่ใกล้กับรีสอร์ทสามารถเดินไปเที่ยวได้อย่างสะดวก เส้นทางรถไฟสายมรณะนับเป็นสิ่งก่อสร้างที่คร่าชีวิตเฉลยสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่น้อยไปกว่าสะพานข้ามแม่น้ำแคว เพราะเส้นทางในช่วงอำเภอไทรโยคมีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงชัน และติดกับแม่น้ำ…

เดินป่าล่องแก่งทุ่งใหญ่นเรศวร นอกจากกิจกรรมล่องแพไม้ไผ่แม่น้ำรันตีแล้ว ภายในอำเภอสังขละบุรียังมีโปรแกรมผจญภัยสุดมันส์กว่านั้นให้เที่ยวกันอีกหนึ่งรายการคือ เดินป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร และล่องแก่งแม่น้ำซองกาเลีย โปรแกรมนี้ใช้เวลาเที่ยวชมธรรมชาติ 2 วัน 1 คืน เริ่มต้นจากเดินป่าทุ่งใหญ่นเรศวรพักแรมนอนแค้มป์กลางป่าหนึ่งคืน จากนั้นรุ่งขึ้นล่องแก่งเรือยางแม่น้ำซองกาเลีย จบโปรแกรมเหนื่อยแต่สนุกเพราะได้สัมผัสทั้งป่า และสายน้ำอันอุดมสมบูรณ์ สังขละบุรีเป็นอำเภอหนึ่งที่มีเขตติดต่อกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร และยังเป็นจุดบรรจบของแม่น้ำ 3 สาย คือแม่น้ำรันตี แม่น้ำบีคลี่ และแม่น้ำซองกาเลีย เมื่อป่าน้ำสมบูรณ์สังขละบุรีจึงเด่นในด้านกิจกรรมท่องป่าล่องแก่ง โดยเฉพาะกิจกรรมเดินป่าทุ่งใหญ่นเรศวร-ล่องแก่งซองการเลีย นับว่าเหมาะสำหรับนักท่องไพรตัวจริงที่สุด เริ่มต้นนั่งรถจากรีสอร์ทไปยังจุดเริ่มต้นเดินเท้าเข้าสู่ทุ่งใหญ่นเรศวร เดินชมธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ตลอดทาง ใช้เวลาเกือบเต็มวันจากนั้นพักแรมนอนแค้มป์กลางป่าที่หมู่บ้านกะเหรี่ยงเสน่ห์พ่อง ช่วงเช้าเดินต่อไปยังจุดล่องเรือยางริมแม่น้ำซองกาเลีย ซึ่งมีต้นน้ำมาจากน้ำตกตะเคียนทอง ผลผลิตจากป่าทุ่งใหญ่นเรศวร…

เดินป่า ล่องแพไม้ไผ่ บนสายน้ำ สังขละบุรี เป็นอำเภอสุดท้ายติดพม่าของกาญจนบุรี ห่างจากกรุงเทพฯ กว่า 400 กิโลเมตร แม้จะไกลแต่ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์สังขละบุรีแห่งนี้ก็ไม่เคยเงียบเหงา เพราะภายในเมืองมีสถานที่ท่องเที่ยวอันโดดเด่นของกาญจนบุรีให้ชมกันมากมาย เช่น สะพานไม่แห่งศรัทธา วัดใต้น้ำอันซีนอินไทยแลนด์ วัดวังก์วิเวการาม และด่านเจดีย์สามองค์ แต่หลังจากจบโปรแกรมหลักของสังขละบุรีกันแล้วในเมืองแห่งนี้ก็ยังมีกิจกรรมผจญภัยบนสายน้ำให้เที่ยวกันต่อด้วยกันก็คือ กิจกรรมล่องแพไม้ไผ่แม่น้ำรันตี หนึ่งในโปรแกรมท่องไพร นั่งช้าง ลุยแก่งสุดมันส์ของสังขละบุรีแห่งนี้ โปรแกรมล่องแพไม้ไผ่แม่น้ำรันตีของสังชละบุรี ผู้บุกเบิกสำรวจเส้นทางก็คือ คุณไพบูลย์ เย็นใจ เจ้าของ พี.เกสต์เฮาส์ อันโด่งดัง แม้ปัจจุบันจะมีผู้ให้บริการเพิ่มขึ้น แต่หลายก็ยังนิยมไปใช้บริการแพกเกจทัวร์ของ…

น้ำตกภูเตย ออฟโรดทัวร์ชมน้ำตกใหญ่กลางป่า ทองผาภูมิได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์ของคนรักการผจญภัย เพราะที่นี่คือบ้านป่าอันอุดมสมบูรณ์ของกาญจนบุรี นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแล้ว ภายในทองผาภูมิก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังไม่เปิดตัวอีกหลายแห่ง โดยเฉพาะน้ำตกกลางป่าที่ต้องการอาศัยการเดินทางด้วยรถออฟโรดก็ยังมีให้ไปชมกันอีกมาก หนึ่งในนั้นคือเส้นทางผจญภัยน้ำตกภูเตย น้ำตกหินปูนสูงใหญ่กลางป่า ซึ่งเป็นน้ำตกที่เหมาะสำหรับนักท่องไพรตัวจริงเท่านั้น น้ำตกภูเตย ห่างจากตัวเมืองทองผาภูมิประมาณ 30 กิโลเมตร การเข้าไปเที่ยวชมต้องอาศัยรถออฟโรด และผู้ชำนาญทางเข้าไปเท่านั้น เพราะเป็นเส้นทางระยะไกลลำบากทั้งทางรถ และทางเดินเท้า หากไปกันเองหลงทางแน่นอน วิธีสะดวกที่สุดคือใช้บริการแพกเกจทัวร์จากรีสอร์ทในทองผาภูมิ ซึ่งจะรวมทั้งห้องพัก รถออฟโรด อาหาร และเจ้าหน้าที่นำทางคอยดูแลไว้เรียบร้อย ด้วยระยะทางที่ไกล และใช้เวลาในการเที่ยวชมเกือบทั้งวัน น้ำตกภูเตยจึงต้องเริ่มต้นการเดินทางกันตั้งแต่เช้า นั่งรถออฟโรดโยกเยกกันไปกว่า 1 ชั่วโมง…

น้ำตกผาสวรรค์ นั่งออฟโรดไปชมน้ำตกจากสรวงสวรรค์ ทองผาภูมิได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งการผจญภัย เพราะโอบล้อมไปด้วยผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ และน้ำตกหลายแห่ง กิจกรรมท่องไพรในทองผาภูมิจึงเป็นที่นิยมกันมากโดยเฉพาะขาลุยประเภทเดินป่า และนักขับรถออฟโรด เพราะน้ำตกหลายแห่งในทองผาภูมิต้องใช้เส้นทางดินลูกรังค่อนข้างลำบากในการเข้าไปเที่ยวชม หนึ่งในนั้นก็คือ น้ำตกผาสวรรค์ น้ำตกหินปูนกลางป่าที่ได้รับการยกย่องว่าเสมือนลงมาจากสรวงสวรรค์ชั้น 7 เส้นทางสู่น้ำตกผาสวรรค์เป็นเส้นทางดินลูกรังเล็กๆ ระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร ตลอดทางเป็นหลุมบ่อขรุขระ ยิ่งในช่วงฝนตกเส้นทางนี้จะเปลี่ยนเป็นดินโคลนต้องนั่งลุ้นกันเหนื่อยว่าจะถึงน้ำตก จากนั้นถึงจุดจอดรถต้องเดินเท้าอีกประมาณครึ่งชั่วโมง เหนื่อยแต่คุ้มเพราะเบื้องหน้าคือน้ำตกหินปูนขนาดใหญ่สูง 7 ชั้น ตั้งตระหง่านอยู่กลางป่าอันร่มรื่น หลังจากนั่งพักเหนื่อยเอาแรงสักพักก็ได้เวลาเดินเที่ยวชมน้ำตกกันต่อ โดยจะมีเส้นทางให้ไปเที่ยวชมจนถึงชั้นบนสุด ซึ่งชั้น 7 นับเป็นชั้นที่มีความสูงถึง 80 เมตร…

น้ำตกกระเต็งเจ็ง งดงามทั้งน้ำตก และทะเลสาบ อำเภอทองผาภูมิเป็นผืนป่าใหญ่ของกาญจนบุรี ภายในอำเภอแห่งนี้มีอุทยานแห่งชาติ ให้เที่ยวชมกันถึง 3 แห่ง ได้แก่ อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อุทยานแห่งชาติลำคลองงู และอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ซึ่งแต่ละแห่งนับว่ามีธรรมชาติอันงดงามโดดเด่นแตกต่างกันออกไป หากชอบชมวิวก็ต้องไปเที่ยวเนินต่างๆ ในอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ส่วนใครชอบน้ำตก และเที่ยวถ้ำก็ต้องไปดูที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงู ส่วนใครรักความสงบก็ต้องมากางเต็นท์พักแรมในอุทยานแห่งชาติเขาแหลม เพราะที่นี่มีทะเลสาบเขาแหลม และน้ำตกกระเต็งเจ็งให้เที่ยวพักผ่อนท่ามกลางป่าไม้ และสายน้ำอันร่มรื่น การจะเข้าไปชมน้ำตกกระเต็งเจ็งคุณต้องแจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ก่อนเข้าไปเที่ยวชม เพราะระยะทางไกลห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาแหลม 4 กิโลเมตร แถมเส้นทางก็ยังไม่ชัดเจน จึงอาจจะเกิดอันตรายได้ง่ายๆ โดยเส้นทางชมน้ำตกจะใช้เวลาเที่ยวชมประมาณครึ่งวันเป็นอย่างน้อย ระหว่างทางมีพรรณไม้…

น้ำตกนางครวญ ผจญภัยเบาๆ ในทองผาภูมิ จุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวชมอุทยานแห่งชาติลำคลองงูส่วนใหญ่จะเป็นการไปเยือนถ้ำ เพราะอุทยานแห่งชาติคลองงูแห่งนี้มีถ้ำสวยอันโด่งดังอยู่หลายแห่ง รู้จักกันดีคือ ถ้ำเสาหิน ถ้ำนกนางแอ่น และถ้ำน้ำตก แต่นอกจากโพรงถ้ำแสนงามแล้วภายในอุทยานแห่งชาติคลองงู ก็ยังมีน้ำตกหินปูนสวยให้ไปเที่ยวชมกันอีกแห่งก็คือ น้ำตกนางครวญ น้ำตกที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดของอุทยานแห่งชาติคลองงู หากคุณเป็นนักเดินทางสไตล์ออฟโรดมาเยือนน้ำตกนางครวญ รับรองว่าได้ลุยกันเต็มเหนี่ยว เพราะเส้นทางสู่น้ำตกนางครวญเป็นดินลูกรังเกือบ 2 กิโลเมตร หากมาเยือนฤดูฝนยิ่งลื่นไถลกันอย่างสนุก จากนั้นถึงจุดจอดรถต้องเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 700 เมตร ถึงจะพบน้ำตกชั้นแรก น้ำตกนางครวญเป็นน้ำตกหินปูนขนาดใหญ่มีทั้งหมด 4 ชั้น จากนั้นชั้นหนึ่งเดินไปชั้นสองระยะทาง 200 เมตร ส่วนชั้นสองเดินไปชั้นสามระยะทางอีก…

น้ำตกไดช่องถ่อง ความงามต่อเนื่องจากน้ำตกเกริงกระเวีย ทางหลวงหมายเลข 323 ระหว่างอำเภอทองผาภูมิสู่สังขละบุรี คุณสามารถแวะเที่ยวชมน้ำตกสวยๆ ได้ถึง 2 แห่ง ที่แรกคือ น้ำตกเกริงกระเวีย น้ำตกหินปูนขนาดเล็กที่มีความงดงาม และยิ่งใหญ่เกินตัว ห่างออกมาอีกประมาณ 1 กิโลเมตร จะพบน้ำตกสวยอีกแห่งคือ น้ำตกไดช่องถ่อง น้ำตกหินปูนแสนสวยอีกแห่งที่เป็นเสมือนน้ำตกพี่น้ำตกน้องของเกริงกระเวีย เพราะน้ำตกไดช่องถ่องมีต้นน้ำมาจากน้ำตกเกริงกระเวีย ก่อนสายน้ำจากน้ำตกจะไหลลงสู่เขื่อนเขาแหลม น้ำตกแห่งนี้จึงเป็นความงามต่อเนื่องที่ไม่ควรพลาดชมเป็นอย่างยิ่ง น้ำตกไดช่องถ่อง ห่างจากน้ำตกเกริงกระเวียเพียง 1 กิโลเมตร บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 32 จะพบทางแยกด้านซ้ายมือเป็นทางลาดยางเข้าไปอีกประมาณ 500…

น้ำตกเกริงกระเวีย ความงามจากริมทางสู่สังขละบุรี สังขละบุรีเป็นอำเภอไกลสุด ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรีประมาณ 230 กิโลเมตร แม้จะเป็นอำเภอชายแดน มีอาณาเขตติดกับพม่าแต่ตลอดปีสังขละบุรีแห่งนี้ไม่เคยเหงาเพราะในอำเภอมีสถานที่ท่องเที่ยวให้ชมมากมายทั้งทางด้านธรรมชาติอันมหัศจรรย์ กิจกรรมผจญภัย และวัดวาอารามชื่อดัง ซึ่งระหว่างทางยังสามารถแวะเที่ยวชมน้ำตกสวยๆ ได้อีกหลายแห่งด้วย ที่แรกเลยก็คือ น้ำตกเกริงกระเวีย น้ำตกริมทางที่มีความสวยงามไม่แพ้น้ำตกสวยในป่าใหญ่ น้ำตกเกริงกระเวีย เป็นน้ำตกเล็กๆ แต่สวยตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 323 ระหว่างทองผาภูมิกับสังขละบุรี ขับรถผ่านมายังสองอำเภอนี้หลายคนจึงไม่พลาดที่จะแวะมาเที่ยวชมเพราะน้ำตกเที่ยวสะดวกไม่ต้องเดินป่าฝ่าดงให้เหนื่อย โดยลักษณะเด่นของน้ำตกแห่งนี้คือ เป็นน้ำตกหินปูนมีสายน้ำไหลลดหลั่นมาตามชั้นที่ไม่สูงมาก บางช่วงสายน้ำไหลแผ่กระจายผ่านแนวต้นไม้ ส่วนด้านล่างเป็นแอ่งน้ำตื้นๆ สามารถลงเล่นน้ำได้เป็นอย่างดี ช่วงที่มีน้ำมากที่สุดคือฤดูฝนน้ำจะเยอะเล่นน้ำสนุกสุด น้ำตกเกริงกระเวียจึงเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย จากนั้นขับรถมุ่งหน้าสู่สังขละบุรีระหว่างทางยังมีน้ำตกให้เที่ยวชมอีกแห่งคือ น้ำตกไดช่องถ่อง…