อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว อุตรดิตถ์

ไต่ภูไปดูมวลมหา ดอกไม้

ด้วยระดับความสูง 1,633 เมตร จากระดับน้ำทะเล คือจุดหมายของเส้นทางเดินป่า เพื่อไปชมทุ่งดอกหงอนนาคบนลานสนภูสอยดาว ทว่าความสูงนี้ต้องเดินเท้ารวมกว่า 6.5 กิโลเมตร ความสูงของภูมิประเทศที่ต้องไต่ขึ้นเรื่อยๆ นั้นไม่ง่ายนักสำหรับมือใหม่ และไม่สบายซะทีเดียวสำหรับมือเก๋า แต่เป็นความพอเหมาะพอเจาะที่ทำให้ทุกหัวใจได้สนุกและตื่นเต้นที่จะได้พบทุ่งกว้างที่อวดโฉมด้วยดอกไม้สีม่วงและสีเหลืองสะพรั่งไปทั่วลานสน

จุดเด่นของลานดอกไม่บนภูสอยดาวคือ ทุ่งดกหงอนนาคขนาดใหญ่ ที่จะบานสะพรั่งให้ชมมากที่สุดระหว่างเดือน สิงหาคม ไปจนถึงเดือนตุลาคม หากนอกเหนือจากช่วงเวลานี้จะยังพอมีหเห็นบ้างแต่ไม่มากนัก ความมีเสน่ห์ของทุ่งดอกหงอนนาคที่นี่คือได้สัมผัสกับสภาพอากาศที่แปรปรวนง่าย ซึ่งอาจจะพบว่ามีทั้งฝน หมอก และแสงอาทิตย์อบอุ่นได้ในวันเดียวกัน

ลักษณะเส้นทางเดินป่าพิชิตลายสนภูสอยดาว เป็นเส้นทางเดินป่าระยะไกล ระยะทาง 6.5 กิโลเมตร จุดเริ่มต้นอยู่ที่น้ำตกภูสอยดาว เส้นทางจัดอยู่ในระดับยาก ช่วงแรกนั้นจะผ่านป่าดงดิบเลียบลำห้วย หลังจากนั้นจะเป็นเนินชันขึ้นเรื่อยๆ สลับกับพื้นที่ราบเป็นระยะ ผ่านสภาพป่าที่หลากหลาย ช่วงสุดท้ายจะเป็นเขาสูงชันเรียกว่า “เนินมรณะ” เมื่อผ่านเนินนี้ไปก็จะถึงลานสน ที่ความสูง 1,633 เมตร จากระดับน้ำทะเล ใช้เวลาในการเดินเท้าประมาณ 4-6 ชั่วโมง

0 เมตร น้ำตกภูสอยดาว จุดเริ่มต้นเดินเท้า ผ่อนคลายสบายใจกับการชมวิวน้ำตกสวยๆ เป็นการวอร์มร่างกายก่อนจะเริ่มเดินขึ้นภู

1,600 เมตร เนินส่งญาติ เป็นเนินรับน้องเนินแรกหลังจากที่เลาะเลียบลำห้วยมาได้สักพัก ส่วนใหญ่เป็นป่าไผ่ มีทั้งทางขึ้นเนินสลับไปมา บางช่วงก็มีบันไดให้เดินขึ้นง่ายๆ

2,300 เมตร เนินปราบเซียน เป็นแนวรอยต่อระหว่างป่าไผ่และป่าดิบเขา เส้นทางเริ่มชันขึ้น นอกจากนี้สภาพเส้นทางยังค่อนข้างลื่นง่าย หากยิ่งมีฝนตกลงมาด้วยแล้ว การเดินในช่วงนี้ต้องระวังมากสักหน่อย รองเท้าที่มีดอกยางหนาๆ ช่วยได้

3,200 เมตร เนินป่ากอ (ป่ากอ คือต้นโอ๊ก เป็นไม้ที่ขึ้นหนาแน่นในบริเวณนี้) ระยะทางช่วงนี้เป็นเนินค่อนข้างไกล ขึ้นเขาสลับกับป่าโปร่ง ส่วนใหญ่เดินขึ้นมาถึงจุดนี้จะแวะพักกินมื้อเที่ยง มีศาลาริมทางให้นั่งพัก

4,700 เมตร เนินเสือโคร่ง เมื่อเดินเท้าพ้นจากเนินป่าก่อมาแล้ว จะเป็นเนินเขาที่เปิดโล่ง ลักษณะจะเป็นเหมือนสันเขาลูกย่อมๆ แทบไม่มีต้นไม้ใหญ่ มีเพียงหญ้าสูงๆ ปกคลุมอยู่ ช่วงนี้ทำให้เริ่มชมทิวทัศน์ได้บ้างแล้ว มองเห็นเนินมรณะอยู่ไม่ไกล

4,900 เมตร เนินมรณะ ลักษณะเป็นเนินบนสันเขาโล่งๆ มีเพียงหญ้าปกคลุมเท่านั้น เนิ่นค่อนข้างชันแต่ทางอุทยานฯ ได้ทำเป็นเหมือนขั้นบันไดทำให้เดินง่ายขึ้น และมีจุดชมวิวทิวทัศน์ให้พักแข้งขาก่อนด้วย

5,700 เมตร จุดผู้พิชิตภูสอยดาว ลักษณะเป็นหัวภูซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดของลานสนภูสอยดาว คือ 1,633 เมตร จากระดับน้ำทะเล จากตรงนี้จะมองเป็นวิวต้นสนอยู่เป็นทุ่งกว้าง และเริ่มมีดอกหงอนนาคให้ชมแล้ว แต่ยังไม่หนาตามากนัก

6,500 เมตร ลานสนภูสอยดาว เป็นพื้นที่ราบลักษณะเป็นทุ่งกว้าง เต็มไปด้วยต้นสนสามใบและทุ่งดอกหงอนนาค นอกจากนี้ก็ยังเป็นจุดกางเต็นท์พักแรมด้วย

บนภูสอยดาวมีอะไร

ทุ่งดอกหงอนนาคและป่าสน พื้นที่ของลานสนภูสอยดาวนั้นกว้างใหญ่กว่าพันไร่ ลักษณะเป็นเนินลาดเอียงสูงต่ำสลับกันไป ปกคลุมด้วยทุ่งหญ้า ดอกหงอนนาค และต้นสนสามใบ ในฤดูฝนตั้งแต่เดือนสิงหาคม-ตุลาคม จะมีดอกหงอนนาคออกดอกบานสะพรั่งไปทั่ว เป็นช่วงที่สวยงามที่สุดนอกจากนี้ยังมีดอกสร้อยสุวรรณา และหญ้ารากหอมด้วยในช่วงฤดูหนาว จะมีดอกกระดุมเงิน กล้วยไม้รองเท้านารี และเมเปิ้ลเปลี่ยนสีให้ชมด้วย

น้ำตกสายทิพย์ เป็นน้ำตกเล็กๆ มีทั้งหมด 7 ชั้น แต่ละชั้นสูงราว 5-10 เมตร มีทางเดินจากลานสนไปยังน้ำตกใช้เวลาประมาณ 20 นาที สภาพรอบๆ น้ำตกมีความชุ่มชื้นสูง ก้อนหินถูกปกคลุมด้วยมอสและตะไคร่น้ำ การไปชมต้องเดินไต่ลงตามไหล่เขาไปยังน้ำตกแต่ละชั้น ทางค่อนข้างลื่น

ชมวิวพระอาทิตย์ตก จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกจะอยู่บริเวณแนวหน้าผาของลานสน ซึ่งสามารถชมวิวได้ตลอดแนวหน้าผา

หลักเขตไทยลาว เป็นหลักที่ใช้ในการปักปันแบ่งเขตแดนระหว่างประเทศไทย และ สปป.ลาว มีขึ้นหลังจากสิ้นสุดสงครามบ้านร่มเกล้า สำหรับใครที่ต้องการโทรติดต่อที่บ้านต้องมาที่จุดนี้จุดเดียวเท่านั้น

สิ่งที่ควรรู้อื่นๆ และการเตรียมตัว

หากใครไม่ค่อยได้ออกกำลังกายแนะนำว่าควรฝึกเดินหรือเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนเดินทาง

มีบริการลูกหาบ คิดค่าบริการตามน้ำหนักกิโลกรัมละ 20 บาท ต่อเที่ยว (อย่างน้อย 10 กิโลกรัม)

ค่ามัดจำขยะ 100 บาท ต่อคณะ ตอนลงนำขยะลงมารับเงินมัดจำคืน

เต็นท์ ถุงนอน แผ่นรองนอน อุทยานฯ มีให้เช่าชิ้นละ 30 บาท/คืน ส่วนผ้าคลุมเต็นท์และผ้ารองใต้เต็นท์เพื่อป้องกันน้ำฝนต้องเตรียมไปเอง

มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำ แต่จะต้องไปตักน้ำเอง มีถึงให้ยืมไปตักน้ำได้ ห้ามลงอาบน้ำหรือล้างจานในลำธารเด็ดขาด

รองเท้าที่ใช้เดินควรเป็นแบบรองเท้าผ้าใบมีดอกยางเพราะทางลื่นและแฉะ ถุงมือผ้าสำหรับปีนป่าย

หม้อสนาม และอุปกรณ์เครื่องครัว เสบียงอื่นๆ ต้องเตรียมไปเอง

บริเวณลานกางเต็นท์มีเตาถ่นให้เช่า ดังนั้นต้องเตรียมถ่านไม้ไปด้วย แต่ใช้เตาแก๊สปิกนิกสะดวกกว่า

เตรียมน้ำดื่มสำรองสำหรับการเดินขึ้นและใช้บนลานกางเต็นท์ แต่มีน้ำฝนที่เจ้าหน้าที่รองไว้และน้ำในลำธารที่นำมาต้มดื่มได้

เสื้อผ้าหรือสัมภาระต้องนำใส่ถุงมัดให้แน่นหนาก่อนลงเป้ ควรเลือกเป้เดินป่าที่มีผ้าคลุมกันฝน

เตรียมเสื้อกันฝนไปด้วย (จำเป็นมาก)

สเปรย์สำหรับป้องกันยุงและยาประจำตัว

ควรเตรียมไฟฉาย และตะเกียงไปด้วย

สัญญาณโทรศัพท์มือถือมีให้บริการจุดเดียวคือบริเวณหลักเขตแดน สามารถใช้สัญญารได้เฉพาะ AIS และ Dtac

ที่ตั้ง อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์

การเดินทาง สามารถเดินทางมาได้ทั้งจากจังหวัดพิษณุโลก และจากจังหวัดอุตรดิตถ์

จากพิษณุโลกไปตามทางหลวงหมายเลข 11 ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 1246 ถึงบ้านแพะ เลี้ยวเข้าทางหลวงหมายเลข 1143 ผ่านอำเภอชาติตระการ ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 1268 ถึงอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว รวมระยะทางประมาณ 188 กิโลเมตร

จากอุตรดิตถ์ใช้ทางหลวงหมายเลข 1047 (อุตรดิตถ์-น้ำปาด) จนถึงอำเภอน้ำปาด แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 1239 ไปอีก 47 กิโลเมตร เลี้ยวเข้าทางหลวงหมายเลข 1268 ไปอีก 18 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว รวมระยะทางประมาณ 133 กิโลเมตร

ฤดูท่องเที่ยว ช่วงเดินสิงหาคม-ตุลาคม หลังจากช่วงเดือนนี้จะไม่มีดอกหงอนนาค ให้ชม

สิ่งอำนวยความสะดวก บริเวณที่ตั้งอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มีที่จอดรถ ลานกางเต็นท์ พร้อมเต็นท์ให้เช่า นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อสำรองเต็นท์พักแรมได้กับทางอุทยานแห่งชาติภูสอยดาวโดยตรง และยังมีร้านอาหารให้บริการบริเวณทางเดินเท้าขึ้นภูด้วย นอกจากนี้หากต้องการติดต่อที่พัก อาหาร เต็นท์ ลูกหาบ ก่อนขึ้นลานสน ต้องติดต่อล่วงหน้าก่อนวันเดินขึ้นภูอย่างน้อย 3-4 วัน ในเวลาราชการ 8.00-16.30 น.

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว โทร. 055 436 793, 055 436 001, 055 436 002